Park Bom เปิดใจหลัง PD Note ตีข่าวคดีปี 2010 ของเธอ:'ฉันไม่เคยเล่นยา แต่ต้องตัดใจทิ้งการร้องเพลงเพราะสังคมตราหน้า ฉันไม่ควรล้มเลิกสิ่งที่รักอีกต่อไป'

Park Bom ให้สัมภาษณ์เปิดใจกับ Sports Kyung Hyung หลังรายการ 'PD Notebook' หยิบข่าวยาเสพย์ติดที่เธอถูกสอบสวนและถูกตัดสินระงับฟ้องเมื่อปี 2010 กลับมาเป็นกรณีศึกษาในรายการ และพยายามชี้ว่าเป็นหนึ่งในคดีที่อัยการเกาหลีใต้ตัดสินอย่างไม่เป็นธรรม 

นักร้องสาวเผยว่า เธอทราบข่าวเกี่ยวรายการนี้เพราะคนรู้จักบอก และเธอกับพ่อแม่ดูรายการนี้ด้วยกัน ท่านทั้งสองได้แต่ถอนหายใจ ซึ่งเธอรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย ก่อนหน้านี้ตอนตกเป็นข่าว ท่านจะย้อนกลับมาถามว่าเธอใช้ยาเสพติดย์จริงหรือเปล่า แต่ทุกวันนี้พวกท่านได้แต่ถอนหายใจกับข่าวที่ออกมา Park Bom ยืนยันชัดเจนอีกครั้งว่า เธอ "ไม่เคย" เล่นยาแม้สักครั้งเดียว เธอถูกสอบสวน และไม่ถูกตั้งข้อหาในคดีดังกล่าว

Park Bom อธิบายว่า เธอเป็นโรคสมาธิสั้น (ADD) ที่เกาหลีใต้อาจจะยังไม่รู้จักโรคนี้กันเท่าไหร่ แต่นักประดิษฐ์ของโลกอย่าง Thomas Eddison ก็เป็นโรคเดียวกับเธอ และที่อเมริกาที่เธอเคยใช้ชีวิตอยู่ การรับยาดังกล่าว และรักษาโรคนี้ก็ถือว่าเป็นเรื่องปกติของสังคม เธอเล่าอีกครั้งว่าเธอต้องใช้ยาตัวที่เป็นปัญหานี้เพื่อรักษาโรคมาตั้งแต่สมัยมัธยม ตอนเรียนอยู่อเมริกาแล้ว และหากไม่ใช้ยาตัวเดียวกันเธอก็จะต้องทรมานกับอาการ ADD เป็นอย่างมาก

เธอยอมรับว่าวิธีการสั่งยาตัวดังกล่าวเข้ามาที่เกาหลีใต้จนเกิดข้อกังขาแบบนั้นมันเกิดจากตัวเธอเองที่ไม่ใส่ใจศึกษาวิธีการให้ดีเสียก่อน เธอยอมรับว่าส่วนนั้นเป็นความผิดของตัวเอง แต่ที่น่าผิดหวังก็คือ ผู้คนต่างสรุปกันไปเองว่าเป็นยาแอมเฟตามีน 100% ทั้งๆที่มันไม่ใช่อย่างนั้นเลย เธอถูกสังคมตัดสินไปแล้วว่าเป็นพวกลักลอบขนยาเสพติดย์ มันช่างไม่ยุติธรรมกับเธอเลย

Park Bom เผยว่า เมื่อ 5 ปีก่อนเธอยอมทิ้งการร้องเพลง เพราะเธอได้รับความเกลียดชังมากมายจนเธอไม่อยากจะเป็นนักร้องอีกต่อไป แต่หลังจากดูรายาการ PD Notebook ที่เพิ่งออกอากาศไป เธอเริ่มรู้สึกว่าเธอต้องกลัลมาเป็นนักร้องให้ได้ และเธอไม่ควรจะต้องละทิ้งสิ่งที่รักที่สุดเพียงเพราะถูกสังคมเข้าใจผิด

Park Bom ขอบคุณไปถึง YG และ Yang Hyung Suk ที่เฝ้าดูเธอเติบโต และย้ำว่าเธอไม่ได้มีปัญหากับต้นสังกัดเก่า ศิลปินสาวเผยว่า เธออยากจะกลับมาเป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จเพื่อจะได้ดูแลพอแม่ที่ต้องทนลำบากเพื่อเธอ เธอขอบคุณไปถึงช่วงเวลากับ 2NE1 และขอบคุณแฟนๆสำหรับช่วงเวลาอันมีค่าต่อเธอ ก่อนหน้านี้เธอเสียใจจนไม่อาจบรรยายเป็นคำพูดได้ จึงได้เก็บความรู้สึกมาจนถึงวันนี้

ที่มา Allkpop

แปลและเรียบเรียง DJ Actkie