2018 ปีแห่งการก้าวสู่วงการเพลงระดับโลกของศิลปินเอเชี่ยน

ปี 2018 ถือว่าเป็นปีทองที่สป็อทไลท์ฉายสู่วงการเพลงเอเชี่ยนมากที่สุดปีหนึ่งก็ว่าได้ เพราะในปีนี้มีศิลปินเอเชี่ยนมากหน้าหลายตาได้ก้าวเข้าสู่เพลงวงการเพลงและวงการบันเทิงระดับโลก ไม่ว่าจะเป็นการเดบิวอย่างเต็มตัว หรือโปรเจ็คข้ามโลกกับศิลปินอินเตอร์ และพวกเขาเหล่านี้คือความหวังที่จะทำให้ ‘เอเชีย’ เจิดจรัสบนเวทีโลก

Tiffany Young

Tiffany Young ผู้เต็มเปี่ยมไปด้วยความกล้าหาญที่จะก้าวออกมาสู่เส้นทางบันเทิงครั้งใหม่แม้ต้องเริ่มต้นจากศูนย์ กับการตัดสินใจเดินหน้าทำตามความฝันที่จะเดบิวที่สหรัฐอเมริกา Tiffany Young เปิดตัวด้วยซิงเกิ้ลแรก ‘Over My Skin’ เพลงที่มอบความกล้าให้คุณเปิดเผยความเป็นตัวเอง ภูมิใจและรักตัวตนของคุณ จากนั้นเธอได้ส่งเพลงเนื้อหาเจ็บๆคันๆอย่าง ‘Teach You’ ตามมา โดยมี Sooyoung และ Hyoyeon เพื่อรักจาก Girls’ Generation มาร่วมแสดง MV ด้วย ก่อนปลายปีเธอจะส่งของขวัญคริสมาสต์แด่แฟนๆแทนคำขอบคุณผ่านซิงเกิ้ลหวาน ‘Peppermint’

Tiffany Young ไม่ได้โดดเด่นในฐานะนักร้องเจ้า - เอ็นเตอร์เทนเนอร์เสียงคุณภาพเท่านั้น แต่เธอยังเขียนเพลงด้วยตัวเอง และยังเป็นทั้งแฟชั่นไอคอน รวมไปถึงนักสร้างแรงบันดาลใจ โดยเธอได้ร่วมส่งกำลังใจถึงเหล่า LGBT กับ Billboard ใน ‘Gay Pride Month’ และยังเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์ H&M อีกด้วย

Jay Park

Jay Park - Park Jaebum แร็ปเปอร์อินเตอร์แห่ง AOMG ได้สร้างประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญด้วยการเป็นศิลปินเอเชี่ยนคนแรกที่เซ็นสัญญากับ Roc Nation ค่ายเพลงฮิปฮ็อปชื่อดังของแร็ปเปอร์ระดับโลก Jay -Z โดยเขาใช้ชื่อในการแสดงที่อเมริกาว่า $hway Bum ซึ่งปีนี้ Jay Park ได้ฤกษ์ส่ง EP อัลบั้มเดบิวที่อเมริกา 'Ask About Me' ออกมาให้ฟังกัน โดยมีเพลง ‘Soju’ เป็นเพลงไตเติ้ลแทร็ค และได้ 2Chainz มาร่วม featuring ด้วย

ศิลปินหนุ่มจากซีแอทเทิลที่ครบเครื่องทั้งเรื่องร้อง เต้น เอ็นเตอร์เทน และยังเติบโตมากับวัฒนธรรมฮิปฮ็อปอเมริกันผู้นี้ ไม่เพียงแต่มีประสบการณ์เบื้องหน้าอัดแน่นเท่านั้น แต่เขายังเป็นทั้งโปรดิวเซอร์ นักแต่งเพลง และนักปั้นเจ้าของค่ายเพลงฮิปฮ็อปอย่าง AOMG และ H1GHR MUSIC อีกทั้งยังเป็นหนึ่งในกรรมการรายการดัง ‘Asia’s Got Talent’ อีกด้วย ซึ่งในปี 2019 ‘Jay Park - $hway Bum’ ก็กำลังจะมีอัลบั้มภาษาอังกฤษอีกชุด ‘The Road Less Traveled’ ออกมาให้ฟังกันอีกครั้ง จับตากระแสว่าจะร้อนแรงขั้นกว่าหรือไม่!?

Kris Wu

แร็ปเปอร์สุดเท่จากแดนมังกร ‘Kris Wu - Wu Yifan’ ทำให้วงการฮิปฮ็อปต้องจับตามองหลังจากเมื่อปี 2017 เขาได้ร่วมงานกับหนึ่งในแร็ปเปอร์แถวหน้าของอเมริกา ‘Travis Scott’ ในเพลง Deserve’ ซึ่งเปิดตัวอย่างร้อนแรงบน US iTunes Chart จากนั้นในปี 2018 หนุ่ม Kris Wu ได้สร้างประวัติศาสตร์เป็นศิลปินจีนคนแรกที่ได้เซ็นสัญญากับค่ายเพลงยักษ์ใหญ่ระดับโลกอย่าง Universal Music Group ของอเมริกา พร้อมส่งอัลบั้ม ‘Antares’ เดบิวที่อเมริกาในปีเดียวกัน ในอัลบั้มนี้มีทั้งเพลงภาษอังกฤษ และภาษาจีน โดยมี ‘Like That’ เป็นเพลงเด่นเพราะสามารถเปิดตัวบนอันดับที่ 73 ของ US Billboard 100 และอัลบั้ม ‘Antares’ ของเขายังขึ้นอันดับที่ 100 ของ Billboard 200 Album อีกด้วย ถือว่าไม่ธรรมดาเลยสำหรับศิลปินเอเชี่ยน

เช่นเดียวกับศิลปินเอเชี่ยนโกอินเตอร์หลายๆคน ‘Kris Wu’ ไม่เพียงได้รับความรักในฐานะศิลปินเท่านั้น แต่ยังมีอิทธิพลต่อแวดวงธุรกิจ และแฟชั่นอีกด้วย Kris Wu อยู่ในอันดับที่ 33 ของ '500 ผู้ทรงอิทธิพลต่อวงการธุกิจแฟชั่นโลก' ที่จัดอันดับโดย BoF (Business of Fashion)  และหลังจากเคยคว้าสัญญาเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์กับ Burberry ไป ล่าสุด Louis Vuitton ก็ได้คว้าตัวเขาไปเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์คนใหม่ สามารถพูดได้เลยว่า หากตะวันตกต้องการเปิดตลาดจีน Kris Wu ก็คือตัวเลือกอันดับต้นๆของแบรนด์ระดับโลกที่อยากจะคว้าตัวเขามาร่วมงานด้วย สมกับที่ Kris Wu อยู่ในอันดับที่ 2 ของ 100 อันดับคนดังจีนผู้ทรงอิทธิพลในแวดงวงธุรกิจโฆษณาจีน จัดอันดับโดย CNB Weekly

Lay Zhang    

Lay Zhang - Zhang Yixing นักร้อง -นักแต่งเพลง ที่เต็มไปด้วยพรสวรรค์ทางดนตรี และสเน่การเต้นอันแพรวพราว ในที่สุดปี 2018 ก็ถึงเวลาที่เขาได้เปล่งประกายบนเวทีโลก กับการเดบิวที่อเมริกาด้วยอัลบั้ม ‘NAMANANA’ ที่เปิดตัวสูงบนอันดับที่ 25 ของอัลบั้มชาร์ท Billboard Hot 200 Albums ซึ่งนอกจากไตเติ้ลแทร็ค ‘NAMANANA’ แล้ว ยังมีเพลงที่น่าสนใจอย่าง 'Give Me A Chance’ ที่ได้นักร้อง - นักแต่งเพลงมาแรงแห่งปี 2018 อย่าง ‘Bazzi’ มาร่วมทำงานเพลงด้วย และในการโปรโมทอัลบั้มครั้งนี้ Lay Zhang ยังทุ่มเทเดินสายโปรโมทบนหน้าสื่อบันเทิงอเมริกาอย่างหนัก พร้อมจัดโชว์เคสที่ New York อีกด้วย   

ในปีนี้ Lay Zhang ยังได้ร่วมงานกับ DJ ระดับโลกคู่ซี้ Alan Walker ในเพลง Sheep เวอร์ชั่น Alan Walker Relift และเขายังเป็นแบรนด์แอมบาสเดอร์ของแบรนด์แฟชั่นระดับดโลก Valentino, เครื่องประดับ Chamut, ผลิตภัณฑ์บำรุงผิว Biotherm และอีกมากมาย เรียกได้ว่าปีนี้ Lay Zhang กลายเป็นคนคุ้นหน้าทั้งในวงการบันเทิง และในแวดวงธุรกิจและแฟชั่นระดับโลกเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

นอกจากศิลปินเอเชี่ยนที่เดบิวอย่างเต็มตัวในฝั่งตะวันตกแล้ว ในปี 2018 ก็ยังมีศิลปินเอเชี่ยนอีกหลายต่อหลายวงที่เร่งเครื่องบุกตลาดอเมริกา เด่นๆในปีนี้ยังคงต้องยกให้ BTS และยังมีอีกสองวงที่น่าจับตามอง นั่นก็คือ MONSTA X และ NCT127

NCT127 

NCT127 ลุยอเมริกาในปี 2018 ในช่วงการโปรโมทอัลบั้ม Regular - Irregular และยังได้ทำเพลงเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษเป็นครั้งแรก กับเพลง 'Regular' เพลงไตเติ้ลแทร็คของอัลบั้มใหม่ ซึ่งการเดินทางตะลุยโปรโมทในอเมริกาครั้งนั้น สมาชิกทั้ง 10 ของวงได้ไปขึ้้นเวทีรายการดังอย่าง Jimmy Kimmel Live! และยังเป็นศิลปินเอชี่ยนยืนหนึ่งบนเวทีฉลอง 90 ปี  Mickey Mouse อีเว้นสุดยิ่งใหญ่ของดิสนีย์อีกด้วย ที่สำคัญ 10 หนุ่มยังได้ปรากฏตัวบนพรมแดงหนึ่งในงานประกาศรางวัลอังทรงเกียรติของอเมริกาอย่าง 2018 American Music Awards อีกด้วย

และการโปรโมทที่อเมริกาด้วยตารางอันแน่นเอียดก็คุ่มค่าความเหนื่อยและความพยายาม เพราะผลงานเพลงชิ้นต่อมา 'Simon Says' เปิดตัวทันทีบนอันดับที่ 1 ของ US Billboard 'World Digital Song Sales Chart' และถูกสตรีมมิ่งกว่า 2,100,000 ครั้ง ภายในเวลาหนึ่งสัปดาห์! NCT127 ผู้มีความมีความเพรียบพร้อมทั้งภาพลักษณ์ สเน่-ความสามารถส่วนตัว และฝีมือในฐานะศิลปิน บวกกับอาวุธลับสำคัญ ที่เหล่าเมมเบอร์ของวงสื่อสารภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี น่าจะเป็นใบเบิกทางที่ทำให้ NCT และ NCT127 ประสบความสำเร็จในฐานะศิลปินระดับโลกได้

MONSTA X

ในปี 2018 MONSTA X คือศิลปินเอเชี่ยนอีกหนึ่งวงที่ปรากฏตัวบนพื้นที่สื่อต่างประเทศอยู่บ่อยครั้ง โดยความสำเร็จที่โดดเด่นของ 7 หนุ่มในตลาดเพลงอเมริกาปีนี้น่าจะเป็นการได้ร่วมทัวร์ในเทศกาลดนตรี Jingle Ball ของ iHeart Radio ช่วงต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา เพราะงานนี้ MONSTA X ได้เดินทางไปยังหลายเมืองใหญ่ของอเมริกา เรียกว่ามีโอกาสแนะนำตัวกับแฟนเพลงอเมริกันกว่าแสนคน! และในช่วงเดียวกันนี้ MONSTA X ได้เผยซิงเกิ้ลภาษาอังกฤษครั้งแรก กับเพลง 'Shoot Out' เวอร์ชั่นภาษาอังกฤษออกมาให้ฟังกันอีกด้วย

MONSTA X เป็นหนึ่งในบอยแบนด์ k-pop ไม่กี่วงที่สมาชิกของวงมีบทบาทสำคัญในการทำเพลง ทำให้ทุกตัวโน้ตของพวกเขาบอกเล่าความเป็น 'MONSTA X' ได้อย่างเต็มที่ และด้วยความสามารถอันโดดเด่น บุคลิคอันน่าเป็นที่รัก ประกอบกับการแสดงสดอันยอดเยี่ยม ถือเป็นข้อได้เปรียบสำคัญที่จะทำให้ 'MONSTA X' ก้าวขึ้นมาอยู่บนเวทีเดียวกับศิลปินระดับโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ 

ในปีนี้ยังมีศิลปินเอเชี่ยนที่ยังไม่ได้เดบิวในอเมริกา หรือเดินสายโปรโมทในซีกโลกตะวันตกอย่างเป็นทางการ แต่ก็มีผลงานระดับอินเตอร์มาให้เราติดตามด้วยเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการร่วมงานกันระหว่าง Wendy แห่ง Red Velvet กับศิลปินรางวัลแกรมมี่อย่าง Johhy Legend ในเพลง 'Written in The Stars' หรือการจับคู่สุดฮ็อตระหว่าง 'Dua Lipa' กับ 'Balckpink' ในเพลง 'Kiss and Make Up' ที่ส่งให้ BLACKPINK กลายเป็นศิลปินแดนกิมจิเบอร์แรกที่มีเพลงติดชาร์ทเพลงอังกฤษ UK Top 40 Chart  

 'Written in The Stars' - John Legend & Wendy (Red Velvet)

'Kiss and Make Up'  - Dua Lipa x BLACKPINK

ความร้อนแรงของศิลปินเอเชี่ยนยังฮ็อตไปถึงโซนละตินอเมริกาใต้ด้วย! เมื่อ Super Junior เปิดตลาดใหม่! เพิ่มโปรไฟล์เป็นศิลปินแนว Latin Pop โดยการคัมแบ็คในปี 2018 พวกเขาได้ชวนศิลปินละตินชื่อดังมาร่วมงานด้วย ส่งผลให้ก้าวเข้าสู่ตลาดละตินได้อย่างงดงาม พร้อมทำสถิติเป็นศิลปินเคป็อบวงแรกทีมีเพลงติดชาร์ทละติน บนชาร์ท Billboard Latin นั่นเอง!

Super Junior ได้ร่วมงานกับ Leslie Grace ในเพลง Lo Siento และตอกย้ำความสำเร็จในแนวทางละตินป็อบอีกครั้งกับ One More Time ที่ได้ REIK มาร่วมงาน

เขียนโดย DJ Actkie