เพื่อนๆ รู้หรือไม่ว่าเพลงเคป็อบสุดฮิตอย่าง “One (Monster & Infinity)” ของ SuperM, “Dance the Night Away” ของ TWICE หรือ “Peek-A-Boo” ของ Red Velvet ต่างก็มีสิ่งหนึ่งที่เหมือนกัน นั่นก็คือการได้นักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ชาวสวีเดนมามีบทบาทสำคัญในเบื้องหลังงานสร้างทุกเพลง

ในวันแรกของงาน World Cultural Industry Forum (WCIF) ประจำปี 2022 ที่จัดขึ้น ณ Hotel Susung ในเมืองทางตะวันออกเฉียงใต้ของแทกู เมื่อวันพุธที่ผ่านมา (6 กรกฎาคม) ผู้นำความคิดเห็นในสาขาวัฒนธรรมได้พูดคุยถึงความร่วมมือระดับโลกระหว่างเกาหลีและสวีเดนที่ช่วยอำนวยความสะดวกให้อุตสาหกรรมดนตรีและความบันเทิงของเกาหลีเติบโต

“มีหลายสิ่งที่เชื่อมโยงสวีเดนและเกาหลีซึ่งเป็นสองประเทศที่มีนวัตกรรมมากที่สุดในโลกที่ทำงานร่วมกันในการสร้างสรรค์และผลิตเพลงเคป็อบที่ประสบความสำเร็จในเชิงพาณิชย์และทางศิลปะ” Daniel Wolven เอกอัครราชทูตสวีเดนประจำเกาหลีกล่าวในระหว่างการกล่าวปราศรัยแสดงความยินดี “นักแต่งเพลงชาวสวีเดนหลายคนกำลังร่วมมือกับชาวเกาหลีเพื่อผลิตเพลงฮิตเคป็อบทั้งในปัจจุบันและอนาคต เช่นเดียวกับที่พวกเขาทำสำหรับวงการเพลงอเมริกันในอดีตที่ผ่านมา เมื่อเร็วๆ นี้ ผมได้อ่านบทความของ New York Times เกี่ยวกับการทำงานร่วมกันระหว่างสวีเดนและเกาหลี ซึ่งรวมถึงข้อความที่บอกว่าสวีเดนมีความเข้าใจด้านอารมณ์ของท่วงทำนองเกาหลีเป็นอย่างดี”

ในขณะที่ Jesper Thorsson ซีอีโอของ Export Music Sweden กล่าวว่ามีนักแต่งเพลงชาวสวีเดนหลายคนหันหัวจากสหรัฐฯ มาที่เกาหลีและเอเชีย โดย Export Music Sweden เป็นบริษัทที่อุทิศตนเพื่อช่วยส่งออกเพลงสวีเดนไปทั่วโลกโดยการสนับสนุนนักแต่งเพลงและนักดนตรีที่แตกต่างกัน “ในปี 2014 Spotify แพลตฟอร์มสตรีมมิ่งในสวีเดนได้เปิดตัวเพลย์ลิสต์เคป็อบรายการแรกและ มียอดสตรีมเพลงเคป็อบเพิ่มขึ้นถึง 1,800 เปอร์เซ็นต์บนแพลตฟอร์มระหว่างเดือนมกราคม 2014 ถึง 2020” เขากล่าวเสริม

Robin Jenssen ซีอีโอของ EKKO Music Rights Europe ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ SM Entertainment อธิบายว่าการศึกษาด้านดนตรีฟรีในสวีเดนมีบทบาทสำคัญในการบ่มเพาะนักแต่งเพลงที่มีความสามารถ “ระบบการศึกษาที่เสรีทำให้คนสวีเดนเรียนรู้ดนตรีตั้งแต่อายุยังน้อยและสร้างสรรค์ท่วงทำนองเพลงป็อบได้ดียิ่งขึ้น” เขาเน้น “ผมเชื่อว่าการดูแลคน (เหล่านี้) และปล่อยให้พวกเขาพัฒนาไปเป็นสิ่งที่สำคัญมาก”

นอกจากนี้ Lee Sung-su ซีอีโอของ SM Entertainment ยังได้แบ่งปันวิธีที่เขาและบริษัทของเขาสร้างความร่วมมือที่ดีกับสวีเดนว่า “ในฐานะบริษัทเกาหลี ดนตรีคือสิ่งสำคัญที่สุดสำหรับเรา เราได้รับเพลงประมาณ 200 เพลงจากนักแต่งเพลงทั่วโลกทุกสัปดาห์ เพลง “Dreams Come True” ของ S.E.S. เมื่อปี 1998 ซึ่งแต่งโดยนักแต่งเพลงชาวฟินแลนด์ Risto Asikainen เป็นเพลงแรกที่เราได้รับจากนักแต่งเพลงจากประเทศแถบสแกนดิเนเวีย ตั้งแต่นั้นมา เราได้ร่วมมือกับครีเอเตอร์กลุ่มหนึ่ง และค่อยๆ ตระหนักว่าสวีเดนเปรียบเสมือนศูนย์กลางของดนตรีในภูมิภาคนี้”

Lee Sung-su เสริมอีกว่าเกาหลีและสวีเดนมีความคล้ายคลึงกันในหลายแง่มุม “ทั้งสองประเทศเคยตกเป็นเหยื่อของการรุกรานจากต่างประเทศในอดีต และเราดูเหมือนจะแบ่งปันความรู้สึกที่คล้ายคลึงกันในใจเรา ผมเรียกสวีเดนว่าบ้านหลังที่สองของผม ผมหวังว่าความร่วมมือระหว่างสวีเดนและ SM จะดำเนินต่อไปในวันข้างหน้าครับ”

ที่มา koreatimes