ศิลปินนักแต่งเพลงผู้ยอดเยี่ยมจาก AKMU นักร้องหนุ่ม Lee Chanhyuk ใช้เวลาแปดปีเก็บเกี่ยวประสบการณ์ในฐานะดูโอ้คู่พี่น้องAKMU และแปดปีให้หลังศิลปินจึงได้บทสรุปสำหรับผลงานเดี่ยวของเขา ซึ่งเรื่องราวทั้งหมดได้ถูกรวบรวมเอาไว้ในอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของเขา “Error” ซึ่งเผยโฉมให้สัมผัสตัสตนทางดนตรีและปรัชญาชีวิตของ Lee Chanhyuk
แม้ว่าจะมีคำศัพท์มากมายที่สามารถส่งสัญญาณถึง 'การเริ่มต้นใหม่' แต่คำที่แวดล้อมอัลบั้มคือคำว่า "ความตาย" เพราะในอัลบั้มนี้ Lee Chanhyuk ที่คนรู้จักได้จากไปแล้ว และ Lee Chanhyuk คนใหม่ก็ได้ถือกำเนิดขึ้น โดยนักร้องหนุ่มกล่าวเสริมว่าเขาได้สลัดตัวตน AKMU ของเขาออกไปแล้วในขณะนี้ เพื่อเผยตัวตัวในฐานะ 'Lee Chanhyuk'
“การทำผลงานได้ดีบนชาร์ตเพลงไม่ใช่สิ่งสำคัญที่สุดสำหรับผม แต่ผมมีความคาดหวังสูงว่าเพลงของผมจะส่งผลกระทบต่อผู้คนอย่างไร โดยเฉพาะผู้ที่ชอบอัลบั้มของผม บางทีสิ่งที่ผมอยากทำจริงๆ ก็คือการถ่ายทอดข้อความสู่สังคมครับ” นักร้องหนุ่มแสดงจุดยืน
ระหว่างที่ Lee Chanhyuk หวนย้อนนึกถึงความทรงจำเก่าๆเพื่อสร้างอัลบั้มโซโล่ให้เป็นรูปเป็นร่าง เขาใช้เพลง 'Bench' เป็นจุดเริ่มต้น โดยศิลปินเผยว่าจุดเริ่มต้นทุกอย่างของอัลบั้มนี้เริ่มต้นด้วยเพลง "Bench" ซึ่งเป็นเพลงในอัลบั้ม "Next Episode" ของ AKMU
เพลงนี้ "Bench" เป็นเพลงเกี่ยวกับการที่แม้ที่อย่างที่เขามีจะสูญสลายไปแต่เขาก็ยังสามารถมีความสุขได้อยู่แม้เพียงนั่งอยู่บน "ม้านั่ง (beanch)" เพราะเขาครอบครอง "ความรัก" และ "อิสระ" เอาไว้ในใจ ซึ่งในตอนนั้น Lee CHanhyuk รู้สึกว่าสองสิ่งนั้นเป็นองค์ประกอบที่สำคัญที่สุดสองประการในชีวิต
“แต่ภายหลังผมถามตัวเองครับ ว่าถ้าสองสิ้งนั้นเป็นสิ่งพื้นฐานที่สุดในชีวิต แล้วผมจะมีความสุขอย่างแท้จริง หรือจะทนต่อคำวิจารณ์ได้หรือไม่ถ้าหากผมตายอย่างกะทันหัน....การที่ผมตั้งคำถามกับความเชื่อของตัวเองก่อนหน้านี้มันเป็นเรื่องที่ค่อนข้างย้อนแย้งในตัวเอง ดังนั้นผมจึงใช้คำว่า 'error' เป็นชื่ออัลบั้มเพื่อแสดงว่าความคิดของผมนั้นผิด...เพลง 11 แทร็กที่ร้อยเรียงเป็นอัลบั้มนี้เปรียบเสมือนเรื่องราวที่เชื่อมโยงความเชื่อใหม่ของผมครับ” เขากล่าว
Lee Chanhyuk เผยว่าเขาเป็นคนหนึ่งที่เชื่อว่า "ความตาย" เป็นเรื่องพื้นฐาน และได้เล่าถึงการตัดสินใจเลือกธีมเกี่ยวกับ "ความตาย" มาเป็นธีมหลักของอัลบั้มว่า “อาจมีหลายคนที่ไม่เคยมีความรักมาก่อน แต่ไม่มีใครที่ไม่มีวันตายครับ ประมาณ 80% ของเพลงเกาหลีเป็นเพลงรัก และถ้าคนที่รู้สึกว่าการฟังเพลงที่พูดถึงความตายเป็นเรื่องแปลก บางทีเราอาจจะต้องทำเพลงเกี่ยวกับหัวข้อนั้นให้มากขึ้นะครับ"
และแน่นอนว่านักดนตรีความสามารถรอบด้านอย่าง Lee Chanhyuk อยากจะเป็นศิลปินแถวกน้าที่พูดถึงปรพเด็นนี้ก่อนใคร “ถ้าความตายเป็นหัวข้อที่น่าเศร้า ก็ควรจะทำเพลงเพลงที่แสดงความโศกเศร้าออกมา ในทางกลับกัน ถ้าความตายเป็นสิ่งที่สามารถมีความสุขได้ ผมเชื่อว่าเราต้องการเพลงจำนวนมากขึ้นที่พูดถึงว่ามันจะมีความสุขได้อย่างไรครับ"
อัลบั้ม 'Error' เกริ่นนำด้วยสองเพลงแรก “Eyewitness Accident” และ “Siren” สองเพลงแรกในอัลบั้มที่แสดงให้เห็นว่า Lee Chanhyuk คนเก่าตายหรือจากไปอย่างไร ก่อนจะมาถึงเพลง “Panorama” เพลงไตเติ้ลแทร็กของอัลบั้มและเป็นจุดเริ่มต้นของ 'Lee Chanhyuk คนใหม่' ซึ่งศิลปินหนุ่มอธิบายว่าเพลงนี้เป็นเพลงที่ "สำคัญที่สุด" สำหรับเรื่องราวในช่วงตอนต้นของอัลบั้ม
“ผมต้องการเพลงเพื่อแสดงให้เห็นว่าผมบอกลาตัวละครเก่าและต้อนรับด้านใหม่ของผมได้อย่างไร นอกจากนี้ยังเป็นเพลงที่แสดงให้เห็นว่าชีวิตที่ผมเคยเป็นอยู่ในอดีตนั้นไม่ได้ซื่อตรงสักเท่าไหร่ครับ” เขากล่าว
เพลงอื่นๆในอัลบั้มได้แก่ “Time! Stop!” “If I can’t go see you right now,” “Goodbye, Stay,” “What the,” “Missed Call,” “Castle in my dream,” “A Day” และ “Funeral hope” ล้วนแล้วแต่ท้าทายผู้ฟังให้คิดตามว่าคุณจำทำอย่างไรหากชีวิตนี้คุณมีเวลาเหลือเพียงวันเดียว
ทั้งนี้เพลงลำดับที่ 9 ของอัลบั้มอย่าง “Castle in my dream" เป็นเพลงที่ค่อนข้างพิเศษในใจของ Lee Chanhyuk “มันอาจฟังดูซ้ำซากนะครับ แต่คนดังมักพูดว่าพวกเขาจะไม่มีวันลืมว่าพวกเขามาจากไหนและทุกอย่างเริ่มต้นอย่างไร ตอนนี้ผมอยู่ในวงการมา 7 ปีแล้วในฐานะนักร้อง และผมเริ่มคิดว่าผมกำลังพยายามบังคับตัวเองให้อยู่ในความคิดแบบนั้น...แต่สิ่งต่างๆเปลี่ยนไป (ตั้งแต่เดบิวต์) ผมรู้ว่าฉันอยากเป็น'ราชา' ถึงแม้ว่าผมจะพยายามถ่อมตัวก็ตาม คำพูดในเพลงพูดถึงวิธีที่ผมต้องการสร้างปราสาทของตัวเอง จัดปาร์ตี้ที่นั่น และเชิญผู้คนมาที่นี้ บางทีนั่นอาจเป็นชีวิตที่ผมฝันถึงในตอนนี้” เขากล่าวอย่าซื่อสัตย์
แม้ว่า Lee Chanhyuk จะสนุกับการสร้างสรรค์ของเขาในฐานะศิลปินเดี่ยว แต่นักร้องหนุ่มก็สัญญาว่าจะกลับมาเป็น AKMU เมื่อถึงเวลา
“ลักษณะทางดนตรีที่ Su-hyun และผมมีอยู่นั้นแข็งแกร่งขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และการทำเพลงในฐานะ AKMU หมายถึงการค้นหาเพลงที่เหมาะกับเราสองคน แต่คิดว่าไม่จำเป็นต้องกังวลว่าจะไม่ได้ยินเสียงเพลงของเราสองคนอีกนะครับ เพราะเราจะปล่อย (AKMU) ออกมาในสักวันหนึ่งครับ”
ที่มา Kpop Hereald
แปลและเรียบเรียง DJ Actkie