Choi Yena เผยภาพลักษณ์ที่แตกต่างจากเดิม 180 องศา ด้วยการกลับมากับซิงเกิ้ลแรกอัลบั้มแรก "Love War" ศิลปินสาวมองลึกลงไปถึงด้านที่ไม่ไร้เดียงสาของเธอเพื่อถ่ายทอดความรู้สึกชังที่เกิดขึ้นในความรักความสัมพันธ์

หลังจากเคยปล่อยสอง EP ; SMILEY - Smartphone ที่ค่อนข้างเบนไปทางสดใส Yena เผยเกี่ยวการคัมแบ็คครั้งนี้ว่า "ฉันนำการเปลี่ยนแปลงบางอย่างมาใช้ในขณะที่ทำงานในอัลบั้มนี้ เพื่อที่ฉันจะได้แสดงให้เห็นว่าฉันได้พัฒนาด้านดนตรี ฉันหวังว่าจะได้แสดงลุคใหม่ๆที่สามารถนำเสนอศักยภาพความและเสน่ห์ที่คาดไม่ถึงของฉันค่ะ"

ซิงเกิ้ลอัลบั้มชุดที 1 "Love War" มีทั้หมด 3 เพลง และมีเพลง "Love War" เป็นเพลงนำในกิจกรรมโปรโมทครั้งนี้ โดยเพลงสื่อถึงความรู้สึกผิดหวังและความไม่มั่นคงที่รู้สึกเมื่อความสัมพันธ์โรแมนติกอยู่ในภาวะวิกฤต

"'Love War' แสดงถึงกระบวนการของความรักในมุมมองของ Yena มันแสดงให้เห็นถึงอารมณ์ของความรักอย่างตรงไปตรงมาและความเร่าร้อนผ่านท่วงทำนองที่นุ่มนวลค่ะ" Yena ซึ่งเขียนเพลงด้วยตัวเองอธิบาย พร้อมเผยว่าอารมณ์ที่แสดงออกใน "Love War" เหมือนกับที่แสดงโดยคู่รักในชีวิตจริง 'นายอนและฮีดู' ในรายการเรียลลิตี้ยอดนิยมอย่าง "Transit Love 2"

“(ในความสัมพันธ์) มีบางครั้งที่คุณทะเลาะกันและทำร้ายกัน และเพลงนี้ก็พูดถึงถึงช่วงเวลาที่ความรักกำลังอยู่ในช่วงสุ่มเสี่ยงเสี่ยง ฉันรู้สึกว่า 'ฮีดูและนายอน' ก็เป็นเช่นนั้น พวกเขาทะเลาะกันเพราะพวกเขารักมากเกินไป” เธอกล่าวในงานแถลงข่าว

เพลงนี้มีนักร้อง-แร็ปเปอร์ BE'O ซึ่ง Yena ยกย่องให้เป็นหนึ่งในศิลปินคนโปรดของเธอมาร่วม featuring ด้วย โดยเธออธิบายว่าการมาร่วมงานกันครั้งนี้ไม่ได้วางแผนไว้แต่แรก แต่มันเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติในระหว่างที่เธอกำลังทำงานเพื่อปรับปรุงเพลงร่วมกับ Colde นักร้อง-นักแต่งเพลงและโปรดิวเซอร์ที่รับหน้าที่ผลิตซิงเกิ้ลล่าสุดของเธอ

"ในขณะที่ฉันกำลังคุยกับ Colde เกี่ยวกับเพลงนี้ เราก็เห็นตรงกันว่าเพลงนี้ควรจะมีศิลปินมา featuring ด้วย ฉันส่งเพลงไปโดยเหลือท่อนของ BE'O ไว้ และเมื่อฉันได้รับเวอร์ชันที่มีการบันทึกเสียงของเขากลับมา มันให้ความรู้สึกราวกับว่านี่เป็นส่วนหนึ่งของเพลงมาตั้งแต่แรก ฉันอาจจะพูดแบบนี้เพราะฉันเป็นแฟนเพลงของเขา แต่กระบวนการต่างๆมันดำเนินไปอย่างไม่มีที่ติค่ะ"

นอกจาก Yena จะเธอมีส่วนร่วมในการเขียนทำนองและเนื้อเพลงสำหรับเพลงไตเติ้ลแล้ว เธอยังมีส่วนร่วมในเพลง B-side อย่าง "Wash Away" ด้วย

“(การแต่งเพลง) มันไม่ได้ยากขนาดนั้นค่ะ อาจเป็นเพราะฉันดูการ์ตูน ละครและภาพยนตร์เยอะ หรือแาจจะเพราะบุคลิกที่อ่อนไหวและเห็นอกเห็นใจคนอื่นของฉัน เนื้อเพลงและทำนองหลั่งไหลออกมาอย่างเป็นธรรมชาติราวกับแสดงอารมณ์ของตัวเองค่ะ...แม้ว่าตอนนี้ฉันจะอยู่ระหว่างฝึกฝนและเรียนรู้ แต่ฉันก็จะทำงานหนักเพื่อที่วันหนึ่งฉันจะสามารถทำเพลงของตัวเองให้เสร็จได้ด้วยตัวเอง"

ศิลปินสาววัย 23 ปี ยังเสริมด้วยว่าว่ามิวสิควิดีโอเพลง "Love War" ได้รับแรงบันดาลใจบางส่วนจากภาพยนตร์เรื่อง "Eternal Sunshine" (2005) และ "Closer" (2004)

Yena การันตีคุณภาพของเพลงอย่างมั่นใจว่า แม้แต่ตัวเธอเองก็กลายเป็นแฟนเพลงของ 'Love War' แล้ว "ฉันฟังเพลงนี้ทุกวันค่ะ คือมันก็มีหลายครั้งที่คุณอาจจะรู้สึกว่าคุณไม่อยากฟังเพลงของตัวเองอีกต่อไป แต่เพลงนี้ดูเหมือนจะไม่เคยทำให้ฉันเบื่อเลยค่ะ" 

ศิลปินสาวยังแสดงความตื่นเต้นอย่างมากในการร่วมงานกับศิลปินคนโปรดของเธอทั้งสองคนในคัมแบ็คครั้งนี้ "ฉันมีความสุขและเป็นเกียรติที่ได้ร่วมงานกับ Colde และ BE'O ศิลปินซึ่งอยู่ในเพลย์ลิสต์ของฉันตลอด และฉันรู้สึกขอบคุณสำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ค่ะ" เธอกล่าว

Yena สร้างชื่อของเธอต่อสาธารณชนในฐานะสมาชิกของ IZ*ONE และในที่สุดเธอก็ได้เดบิวต์โซโล่ในเดือนมกราคม 2022 กับ EP แรก "Smiley" ตามมาด้วย EP ที่สอง "Smartphone" ซึ่ง Yena ทำสถิติยอดขาย 110,000 แผ่นในสัปดาห์แรก อันถือเป็นการตอกย้ำรากฐานที่มั่นคงในฐานะศิลปินเดี่ยว และสำหรับ Yena นั่นเส้นทางในวงการบันเทิงที่น่าตื่นเต้นในปีที่ผ่านมาารู้สึกเหมือนเป็นส่วนหนึ่งของละครทีวี

"มีอะไรเกิดขึ้นมากมายในปีที่ผ่านมา มันให้ความรู้สึกเหมือนชีวิตในละคร ฉันไม่ได้คาดหวังว่าจะได้เดบิวต์เดี่ยว แต่มันเกิดขึ้นราวกับถูกจัดวาง และผู้คนยังคงให้ความสนใจฉัน ฉันคอยเติมเต็มเวทีด้วยตัวฉันเอง ตอนนี้ แฟนๆของฉันก็มีชื่อแฟนด้อมเป็นของตัวเองแล้ว และฉันก็ใกล้จะครบรอบปีแรก(ของโซโล่เดบิวต์)ของฉันแล้ว ทุกๆอย่างช่างเหลือเชื่อเหลือเกินค่ะ"

เพื่อที่ก้าวไปข้างหน้าในฐานะศิลปิน เป้าหมายสูงสุดของ Yena คือการท้าทายตัวเองต่อไป “ฉันมีแรงบันดาลใจในการแสดงของฉันและมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันอยากทำ เป้าหมายของฉันคืออย่ากลัวที่จะรับแนวคิดและแรงบันดาลใจใหม่ๆเมื่อสิ่งเหล่านั้นผุดขึ้นมาในความคิดของฉัน ฉันจะเปลี่ยนแปลงและพัฒนาตัวเองต่อไปเรื่อยๆค่ะ” เธอกล่าว

ที่มา Korea JoongAng Daily

แปลและเรียบเรียง DJ Actkie