จบลงไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับ ‘Synk: Hyper Line’ คอนเสิร์ตเดี่ยวครั้งแรกของเกิร์ลกรุ๊ปหน้าใหม่มาแรงอย่าง aespa ซึ่งจัดขึ้นจำนวนสองรอบเมื่อคืนวันเสาร์และอาทิตย์ที่ 25-26 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ณ Jamsil Arena ในโอลิมปิกพาร์คของกรุงโซล นับเป็นการรอคอยมาอย่างยาวนานกว่า 2 ปี หลังที่จากวงเดบิวต์ในเดือนพฤศจิกายน ปี 2020 และการคัมแบ็คที่ถูกเลื่อนออกไป ท่ามกลางความไม่ลงรอยในภายในระหว่างต้นสังกัด SM Entertainment แต่การแสดงที่ยิ่งใหญ่ทั้งสองคืนได้พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าการรอคอยนั้นคุ้มเกินคุ้ม และทำให้แฟนๆ มั่นใจพวกเธอมีศักยภาพมากพอที่จะเผยออกมาให้เห็นอีกในอนาคต
โดยรอบการแสดงในคืนวันอาทิตย์นั้น มีแฟนๆ กว่า 5,000 คนมารวมตัวกันที่สถานที่ในร่ม สำหรับคอนเสิร์ตครั้งที่สองที่กรุงโซล ในขณะที่แฟนๆ จากทั่วโลกใน 79 ประเทศ ยังสามารถรับชมโชว์ในรอบนี้ผ่านทางแพลตฟอร์มสตรีมมิ่งอย่าง Beyond Live อีกด้วย เมื่อสี่สมาชิกสาว Karina, Winter, NingNing และ Giselle ปรากฏตัวบนเวทีในชุดสีขาวสดใส Jamsil Arena ก็ปะทุขึ้นด้วยเสียงเชียร์อย่างกึกก้อง ก่อนเริ่มต้นโชว์ด้วยเพลง “Girls” จากมินิอัลบั้มชุดที่สอง ซึ่งสาว Winter ดึงดูดความสนใจด้วยการแสดงโซโล่กีตาร์ไฟฟ้าอันน่าหลงใหลของเธอบนเวที หลังจากที่เธอฝึกซ้อมจนนิ้วของเธอเลือดออก จากการเปิดเผยในภายหลังของเพื่อนสมาชิก
โชว์ดำเนินต่อไปอย่างไม่รอช้าด้วยสามเพลงจากมินิอัลบั้มชุดแรก ‘Savage’ ทั้ง “aenergy”, “I’ll Make You Cry” และเพลงไตเติ้ลสุดฮิตอย่าง “Savage” และเนื่องจากนี่เป็นคืนที่สองของการแสดงแล้วสี่สาว aespa จึงดูชิลขึ้นอย่างเห็นได้ชัดในการพูดคุยกับแฟนๆ จากบนเวที โดย Winter ลั่นมุกตลกว่า “น่าเสียดายนะคะ ที่คุณพลาดความสนุกในการดูความงุ่มง่ามของเราเมื่อวานนี้” ก่อนเสริมว่า “เมื่อวานมันไม่ง่ายเลย แต่คืนนี้เราอยู่ในสภาพที่ดีขึ้นมากเลยค่ะ”
ตามคำอธิบายก่อนหน้านี้เกี่ยวกับคอนเซ็ปต์อนาคตในธีมอวตาร สี่สมาชิก aespa มีตัวละครอวตารที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์เป็นของตัวเอง ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับพวกเธอผ่านแพลตฟอร์มเสมือน Synk โดยชื่อคอนเสิร์ต ‘Hyper Line’ หมายถึงโลกที่ aespa, ae (อวตาร AI) และ My (ชื่อแฟนด้อมอย่างเป็นทางการของวง) มารวมตัวกันนั่นเอง “ในพื้นที่ออนไลน์ aespa และ ae ได้พบกัน ส่วนในพื้นที่ออฟไลน์ aespa และ My ได้พบกันค่ะ” Winter อธิบาย
เพื่อให้สอดคล้องกับคอนเซ็ปต์ของโชว์ aespa จึงแสดงให้เห็นถึงความมหัศจรรย์ของเทคโนโลยีล้ำสมัยเพื่อทำให้โลกเสมือนจริงของวงมีชีวิตขึ้นมา เมื่ออวตารทั้งสี่ปรากฏขึ้นบนจอโดยเคลื่อนไหวอย่างกลมกลืน ซึ่งตลอดทั้งคืนนั้นให้ความรู้สึกเหมือนเป็นแพ็คเกจของขวัญสุดเซอร์ไพรส์สำหรับแฟนๆ เมื่อวงมีการเล่นเพลงใหม่ที่ยังไม่ถูกปล่อยมากถึง 11 เพลง เกือบครึ่งหนึ่งจากเซ็ตลิสต์ทั้งหมด 25 เพลง โดยในบรรดาเพลงใหม่นั้น ยังมีเพลงเดี่ยวของสมาชิกแต่ละคนอีก 4 เพลงด้วย Karina มาในเพลง “Menagerie”, Winter มาในเพลง “Lips” ขณะที่ Giselle มาในเพลง “2Hot4U” และ NingNing กับเพลงที่มีชื่อว่า “Wake Up”
ส่วนเพลงใหม่อื่นๆ ที่ถูกนำมาเล่นในโชว์ทั้งสองรอบ มีทั้ง “Thirsty”, “Salty & Sweet”, “I’m Unhappy”, “Don't Blink”, “Hot Air Balloon”, “YOLO” และ “Till We Meet Again” ก่อนเสียงเเสียงกรี๊ดจากแฟนๆ จะดังสนั่นไปทั่วอารีน่าระหว่างการแสดงเพลงฮิตอย่าง “Savage”, “Illusion”,” “Next Level” และ “Black Mamba” ในขณะที่การแสดงเพลง “Lucid Dream”, “Dreams Come True” และ “Life’s Too Short” ได้เปิดหูเปิดตาให้เห็นถึงเสน่ห์ที่คาดไม่ถึงของวง
ไม่เพียงแต่แฟนๆ เท่านั้น แต่ศิลปินรุ่นพี่ในสังกัด SM Entertainment ทั้ง Taeyeon, Changmin, สมาชิก Red Velvet, Super Junior, SHINee และ NCT ยังไปร่วมชมการแสดงในคืนวันอาทิตย์ เพื่อแสดงการสนับสนุนสำหรับการเริ่มต้นใหม่ของพวกเธออีกด้วย โดย aespa กล่าวอำลาผู้ชมด้วยการแสดงเพลง “Till We Meet Again” และ “ICU” สำหรับช่วงอังคอร์ “คืนนี้เราสนุกมากๆ ขอบคุณมากนะคะ คืนนี้บรรยากาศมันแตกต่างจากเมื่อวานจริงๆ ฉันรู้สึกสบายใจขึ้นเยอะเลย และเหล่า My ก็มีกลิ่นอายของ ‘yolo’ มากขึ้นด้วย ครั้งหน้ามาสนุกกันให้มากขึ้นนะคะ” Giselle กล่าว ก่อนที่ NingNing จะเสริมว่า “ฉันมีความสุขทั้งเมื่อวานและวันนี้เลย ฉันหวังว่าเราจะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป ขอบคุณทุกคนมากนะคะ เราจะทำงานอย่างหนักในทัวร์ที่เหลือค่ะ”
ในขณะที่ Karina ตะโกนบอกแฟนๆ ทั่วโลกที่กำลังรับชมแบบเรียลไทม์ผ่าน Beyond Live ว่า “เราจะนำคอนเทนต์ใหม่ๆ ให้มากขึ้นด้วยการคัมแบ็ค ดังนั้นโปรดติดตามกันด้วยนะคะ เราจะพัฒนาต่อไปในฐานะศิลปิน และเราจะไม่ผิดสัญญาที่เราให้ไว้ก่อนหน้านีแน่นอนค่ะ” โดยหลังจากนี้ aespa จะพาคอนเสิร์ต ‘Synk: Hyper Line’ ไปเปิดการแสดงในอีกหลายรอบทั่วโลก ซึ่งรอบต่อไปจะเกิดขึ้นที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น วันที่ 15 มีนาคมนี้
ที่มา koreaherald