นักร้อง - นักแต่งเพลงและแร็ปเปอร์ B.I กลับมาอีกครั้งกับอัลบั้มเต็มชุดที่ 2  “To Die For” ซึ่งเขาเผยในงานแถลงข่าวว่าเป็นทั้งบทกวีที่แสดงถึงความรักที่ไม่มีวันตายในตัวเขาในฐานะศิลปิน และยังเป็นเหมือนจดหมายขอโทษอย่างจริงใจที่เขาต้องการส่งถึงทุกคนที่เคยผิดหวังจากการกระทำที่ผิดพลาดในอดีตของเขา

“ผมคิดว่าผมไม่เคย และคงไม่มีวันลืมสิงที่ผมเคยทำผิดไป” เขากล่าวกับผู้สื่อข่าวในงานโชว์เคสที่จัดขึ้นเมื่อวันพฤหัสบดี “ผมเสียใจมากที่ทำให้ทุกคนผิดหวังเนื่องจากการตัดสินใจที่ผิดพลาด ผมขอโทษเคยที่สร้างปัญหา ผมคิดว่าผมยังไม่เคยมีโอกาสพูดถึงเรื่องนี้อย่างเป็นเหมาะสม ดังนั้นผมจึงอยากใช้โอกาสนี้กล่าวคำขอโทษอย่างจริงใจต่อทุกๆคน ทั้งสื่อมวลชน สาธารณชน แฟนๆและทุกๆคนครับ”

“To Die For” เป็นอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ของเขา สองปีพอดีนับตั้งแต่อัลบั้มเต็มชุดแรก "Waterfall" เปิดตัวเมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2021 อัลบั้มนี้ที 15 แทร็กที่มีเพลงนำสองเพลง "Die for Love" ซึ่งได้แร็ปเปอร์ฮ็อตตัวแม่ 'Jessi' มาร่วมงานด้วย และเพลง "Dare to Love" ที่มี BIG Naughty มาสร้างสีสีน เพลง "Dare to Love" 

อัลบั้มนี้ถูกสร้างขึ้นในลักษณะพิเศษที่ไม่เหมือนใคร โดยที่แทร็กนำไม่ได้มาพร้อมกับมิวสิควิดีโอความยาวมาตรฐาน 3 ถึง 5 นาที แต่เก้าแทร็กจากอัลบั้มจะอธิบายในรูปแบบ "ภาพยนตร์แบ่งเป็นตอน" ความยาวตอนละ 1 นาที ซึ่งภาพยนตร์ติดตามเรื่องราวของคู่รักหนุ่มสาวที่ตกอยู่ในความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ แต่ละตอนเล่าเรื่องราวของคนสองคนที่ตกหลุมรัก เกิดปัญหา และพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจัดการกับมัน แนวคิดทั้งหมดมาจากมุมมองของ 'B.I.' ต่อช่วงเวลาวัยรุ่น

“ผมคิดว่าถ้าคุณมองย้อนกลับไปในวัยเยาว์ คุณจะจำได้เพียงบางส่วนของความทรงจำบางอย่าง เหมือนกับเป็นหนังสั้น...ผมต้องการถ่ายทอดความรู้สึกที่แบ่งเป็นตอนๆแบบนั้นในทั้งอัลบั้ม ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมผมถึงมอบอีกมิติหนึ่งให้กับแนวคิดของวัยรุ่นครับ” เขายังเสริมด้วยว่า ส่วนหนึ่งใจเขาอยากฉีกออกจากแนวทางของอัลบัั้มทั่วไป เขาจึงเกิดไอเดียการนำเสนอแบบนี้ขึ้นมา

นอกจากนี้ อัลบั้ม 'To Die For' ยังมีอีก 7 เพลงใหม่; "Wave (feat. Kid Milli, Lil Cherry)," "The Island of Misfit Toys," "Beautiful Life (feat. Crying Nut)," "Cloud Thought" และ "Truth" และยังรวมอีด 6 เพลงจากอัลบั้ม "Cosmos" ที่วางจำหน่ายเมื่อพฤศจิกายน 2021 ด้วย

B.I. คือนักร้องนักแต่งเพลงหนุ่มที่แต่งและเขียนเนื้อเพลงเกือบทุกเพลง และเขาเผยถึง 'เชื้อเพลิง' ที่ช่วยจุดประกายแรงบันดาลใจของเขาในการสร้างสรรค์ผลงาน

"ผมได้รับแรงบันดาลใจจากบทกวี หนังสือ และภาพยนตร์ แต่เหนือสิ่งอื่นใด ผมเป็นคนคิดมากครับ ผมใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่ที่บ้านและหมกมุ่นกับความคิดของตัวเอง ผมได้รับคำตอบของตัวเองจากสิ่งเหล่านั้น คำตอบเหล่านั้นเป็นแรงบันดาลใจให้ผมครับ" 

สื่อมวลชนได้ถาม B.I เกี่ยวกับแผนการในอนาคตของเขา ท่ามกลางคำขอโทษซ้ำแล้วซ้ำเล่าเกี่ยวกับอดีตของเขา

“ในตอนนั้นไม่เพียงแต่ผมยังเด็กเกินไปเท่านั้น (ผมยัง) ไร้ความคิดด้วย...ทุกวันนี้ผมคิดว่าแรงบันดาลใจและความพยายามของฉันเท่านั้นคือสิ่งสำคัญที่สุด ตอนนี้งานของผมคือสิ่งที่ผมให้ความสำคัญที่สุด ผมสูญเสียอะไรไปมากในระหว่างนั้น และได้บทเรียนครั้งใหญ่ครับ" 

หลังถอนตัวออกจาก iKON ด้วยความแง่ลบเมื่อปี 2019 ศิลปินหนุ่มกลับสู่วงการเพลงอีกครั้งในเดือนมิถุนายนปี 2021 ซึ่ง B.I. ทราบดีถึงคำวิจารณ์ของ 'บางคน' ที่รู้สึกว่าเขากลับมาทำงานเร็วเกินไปและดูเหมือนจะไม่ได้ใช้เวลาสำนึกตัวเองมากพอ เกี่ยวกับเรื่องนี้ B.I บอกว่าเขาตัดสินใจเช่นนั้นเพื่อแฟนๆและคนรอบข้าง 

“มันไม่มีกำหนดเวลาสำหรับการสำนึกผิดหรอกครับ มันไม่มีวันสิ้นสุด ผมกลับมาเพื่อตอบแทนทุกคนที่ผมเป็นหนี้บุญคุณ นี่คือภาระที่ผมต้องรับไปตลอดชีวิต” เขากล่าวด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทาเป็นบางครั้ง

“แม้ว่าผมจะเปลี่ยนไปแล้ว แต่ลึกๆในใจผมมีบางสิ่งที่ยังไม่สามารถปล่อยวางได้ตามความต้องการ ผมจะไม่มีวันลืม เพลงของผมเป็นเหมือนบันทึกความคิดของตนเอง และผมจะทำในสิ่งที่ฉันทำได้ต่อไป อยู่อย่างอ่อนน้อมถ่อมตนและตระหนักในสิ่งที่คนทั่วไปพูดกับผมครับ"

อย่างที่ได้บอกไปข้างต้นว่า B.I. กลับมาตั้งหลักได้อีกครั้งเพราะแฟนๆของเขาและคนรอบข้างที่คอยสนับสนุนเขาให้ลุกขึ้นยืนอีกครั้ง ซึ่งศิลปินหนุ่มได้ถือโอกาสนี้ของคุณแฟนๆและผู้คนเหล่านั้น

“ผมรู้สึกขอบคุณแฟนๆของผมมากที่สุด ผมมักจะตั้งคำถามว่าพวกเขาให้ความรักที่ยิ่งใหญ่กับผมขนาดนี้ได้อย่างไร สิ่งที่ผมทำได้ก็แค่พยายามทำให้ดีที่สุดในสิ่งที่ผมทำ” เขากล่าว

ที่มา (1) (2)

แปลและเรียบเรียง DJ Actkie