การเป็นทั้งนักร้องและนักแสดงในเวลาเดียวกันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่สำหรับสาว Jo Yuri แล้ว เธอสนุกกับการทำทั้งสองอย่าง
เมื่อไม่กี่เดือนที่ผ่านมา Jo Yuri เป็นที่รู้จักในฐานะศิลปินเดี่ยวและเป็นนักร้องนำในโปรเจ็กต์เกิร์ลกรุ๊ปอย่าง IZ*ONE แต่หลังจากที่ชื่อของเธอได้รับการประกาศให้เป็นส่วนหนึ่งของทีมนักแสดงใหม่ของ ‘Squid Game Season 2’ ซึ่งเป็นซีรีส์ออริจินัลที่ Netflix คาดหวังไว้สูง เธอก็ถูกหลายคนยกให้เป็นนักแสดงที่มีศักยภาพน่าจับตามองทันที
แต่ก่อนที่ซีรีส์ ‘Squid Game’ จะลงจอ Jo Yuri ได้กลับมาอีกครั้งในฐานะนักร้องด้วยอีพีชุดที่สอง ‘Love All’ หลังห่างหายไปนานกว่า 1 ปีนับตั้งแต่อีพีชุดแรกอย่าง ‘Op.22 Y-Waltz: in Major’ เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2022
“ฉันคิดว่าการเป็นนักร้องหรือนักแสดงนั้นยากทั้งคู่เลย” เธอให้สัมภาษณ์ในงานแถลงข่าวเปิดตัวที่จัดขึ้นเมื่อวันพุธที่ผ่านมา (9 สิงหาคม) ณ Yes24 Hall ในเขตกวางจิน ทางตะวันออกของกรุงโซล “ฉันเพิ่งเริ่มทำทั้งสองอย่างและยังเรียนรู้อยู่ ดังนั้นฉันคิดว่าทั้งการแสดงและการร้องเพลงก็ยากพอๆ กันสำหรับฉันค่ะ”
“แต่ฉันรักทั้งการร้องเพลงและการแสดง และฉันก็มีความสุขที่ได้แสดงตัวตนต่อสาธารณชนด้วยการทำในสิ่งที่ฉันรัก” เธอกล่าวต่อ โดยชื่ออีพี ‘Love All’ ซึ่งอ้างอิงถึงคำศัพท์ปิงปองที่ใช้ส่งสัญญาณถึงการเริ่มเกม พูดถึง “ทุกช่วงเวลาแห่งความรัก” ตั้งแต่การตกหลุมรักจนถึงช่วงเวลาที่ตามมาของการตกหลุมรัก ซึ่ง Jo Yuri อธิบายว่าเพลงไตเติ้ลอย่าง “Taxi” เป็นเหมือน “เพลงสารภาพรักตรงๆ”
“คุณรู้ไหม จริงๆ แล้วฉันไม่มีใบขับขี่นะคะ และแท็กซี่ก็เป็นพาหนะที่ฉันนึกถึงเวลาที่ฉันต้องไปที่ไหนสักแห่งอย่างรวดเร็ว หรือเมื่อฉันมีเรื่องเร่งด่วน” เธออธิบาย “มันเพลงที่สื่อถึงความคิดที่จะเข้าใกล้คนที่คุณรักให้เร็วที่สุด”
ในขณะที่เธอคัมแบ็คอีกครั้งหลังจากหยุดพักไปนาน 1 ปี Jo Yuri เล่าว่าเธอทำงานอย่างหนักเพื่อให้ดูดีและสดชื่นขึ้น “เมื่อฉันได้พักสักหน่อย ฉันก็ต้องการเปลี่ยนรูปลักษณ์บางอย่าง ฉันกลายเป็นสาวผมบลอนด์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ฉันเดบิวต์ในฐานะศิลปินเดี่ยว และฉันได้ลองทำหลายๆ อย่างด้วยเสียงร้องด้วย ฉันพยายามแสดงสไตล์เสียงที่เป็นแก่นสารของ Jo Yuri ในทุกเพลงของฉันจนถึงตอนนี้ แต่สำหรับอัลบั้มนี้ ฉันพยายามปรับแนวเสียงของฉันตามประเภทของเพลงในอัลบั้ม และฉันหวังว่าแฟนๆ จะรู้สึกได้ถึงความแตกต่างจริงๆ ค่ะ”
สำหรับเพลง b-side อย่าง “Bruise” ที่เธอหยิบมาร้องในงานแถลงข่าว เป็นเพลงบัลลาดที่มีเสียงร้องนุ่มนวลมากขึ้น ซึ่งตรงกันข้ามกับเพลงไตเติ้ลที่เป็นแนวแดนซ์-ป็อปที่มีจังหวะสนุกสนาน นอกจากนี้ เธอยังอธิบายอีกว่าน้ำเสียงที่เป็นเอกลักษณ์ของเธอ ซึ่งเป็นเสียงที่ “ทั้งแฟน ๆ และคนทั่วไปสามารถจดจำได้ตั้งแต่แรกฟัง” คือจุดแข็งที่สุดของเธอในฐานะนักร้อง
“ฉันหวังว่าผู้คนจะจำฉันได้ทั้งในฐานะ ‘นักร้องที่คุณฟังด้วยความมั่นใจ’ และ ‘นักแสดงที่คุณสามารถรับชมด้วยความมั่นใจ’” เธอกล่าว “ฉันหวังว่าผู้คนจะบอกว่า ‘ถึงฉันจะไม่ใช่แฟนของ Jo Yuri แต่ฉันก็ยังฟังอัลบั้มของเธอและดูการแสดงของเธอ’”
ที่มา koreajoongangdaily