Bang Yedam เริ่มต้นการเดินทางครั้งใหม่ในฐานะศิลปินเดี่ยวด้วยมินิอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกของเขา “Only One” เผยสีสันทางดนตรีและศักยภาพในฐานะนักร้อง - นักแต่งเพลง ผ่านหลากงานเพลงที่ศิลปินหนุ่มแต่งและมีส่วนร่วมด้วยตัวเองทั้งหมด
“ผมอยากมีส่วนร่วมในการนำเสนออัลบั้มของผมด้วยการแต่งและเขียนเนื้อเพลงมาโดยตลอด ผมอยากจะแสดงสิ่งที่ผมหวังว่าจะแบ่งปันกับสาธารณชนผ่านเพลงของตัวเอง ดังนั้นช่วงเวลาที่ได้เดบิวต์ในฐานะศิลปินเดี่ยวแบบนี้จึงช่วงเวลาที่มีความสุขที่สุดครับ” เขาในการให้สัมภาษณ์กับสื่อเกาหลีใต้
Bang Yedam ปรากฏตัวครั้งแรกทางโทรทัศน์ในปี 2013 ผ่านทางรายการออดิชั่น K-pop ของ SBS รายการ “K-pop Star 2” ในตอนนั้นเขาอายุเพียง 11 ปี แต่ทักษะความสามารถอันโดดได้ ทำให้เด็กตัวน้อยเขาได้รับฉายาว่า “ไมเคิล แจ็กสันตัวน้อย” และ “จัสติน บีเบอร์ แห่งเกาหลี”
“ฉายาเหล่านั้นแอบเป็นภาระสำหรับผมอยู่เหมือนกัน และมีหลายครั้งที่ผมสงสัยว่าผมร้องเพลงเก่งจริงหรือเปล่า แต่ในขณะเดียวกันความคาดหวังเหล่านี้ยังเป็นสิ่งที่ทำให้ผมทำงานหนักขึ้นเพื่อทำตามความคาดหวังเหล่านั้นครับ”
ศิลปินหนุ่มใช้เวลาเจ็ดปีเทรนนี่ใน YG Entertainmenและได้เปิดตัวในฐานะสมาชิกของกลุ่มบอยแบนด์ Treasure ในปี 2020 แต่ในเดือนพฤศจิกายน พ.ศ. 2565 เขาได้ตัดสินใจถอนตัวออกจากกลุ่มและยกเลิกสัญญาพิเศษของเขา และในสัมภาษณ์ครั้งนี้ Bang Yedam ก็ได้กล่าวถึงเรื่องนั้นด้วย
“ในช่วงที่ผมเป็น Treasure ผมทำกิจกรรมต่างๆมากมาย มันทำให้ผมมีประสบการณ์มากขึ้นว่าจะทำอะไรบนเวทีและวิธีเข้าถึงแฟนๆได้อย่างไร ในขณะที่ใกล้ชิดกับแฟนๆผมก็ได้เติบโตขึ้นและมสำหรับผมมันคือโอกาสอันมีค่าครับ”
"แต่ผมเริ่มเล่นดนตรีตั้งแต่อายุได้ 5 ขวบ และผมมีภาพในใจเสมอว่าผมต้องการทำอะไรในฐานะศิลปิน ผมรู้สึกว่าผมไม่เหมาะที่จะอยู่ในกลุ่ม เพราะผมจะรู้สึกพึงพอใจในตัวเองมากกว่าถ้าหากผมสร้างความสำเร็จทั้งหมดได้ด้วยตัวของผมเองครับ
Bang Yedam พยายามบอกเล่าเรื่องราวของตัวเองในอัลบั้ม 'EP Only One' ซึ่งมีเพลงทั้งหมด 6 เพลงที่นำโดยเพลงที่มีชื่อว่า "Only One"
“อัลบั้มนี้เป็นแนวป๊อปเพราะผมพยายามสร้างทำนองและเนื้อเพลงที่ทุกคนสามารถฟังและเข้าถึงได้ง่าย ผมมีเพลงประมาณ 30 เพลงที่ต้องเลือกเพื่อทำอัลบั้มนี้ ผมตัดสินใจเลือกเพลงที่น่าจะสร้างความประทับใจให้กับผู้ฟังครับ”
ชื่ออัลบั้มยังแสดงถึงความตั้งใจของเขาในการสร้างเพลงที่มีเพียงเขาเท่านั้นที่สามารถแสดงและโปรดิวซ์ได้
“ดนตรีเป็นเรื่องสนุกจริงๆ การเริ่มต้นและสิ้นสุดวันใหม่ด้วยเสียงเพลงถือเป็นความสุขที่ยิ่งใหญ่ในตัวมันเอง ผมอย่างจะทำทุกสิ่งทุกอย่างด้วยแพสชั่น ผมอยากร่วมงานกับนักร้องคนอื่นๆและทำกิจกรรมต่างๆ ในฐานะผู้ให้ความบันเทิง นอกจากนี้ในฐานะโปรดิวเซอร์ผมก็ยากจะแสดงเพลงของตัวเองให้มากขึ้น.
"ผมอยากเป็นศิลปินที่ทำเพลงที่ผู้คนยังคงฟังอยู่เรื่อยๆแม้ว่าจะผ่านไปหลายปีหลังจากนั้น ผมอยากเป็นศิลปินที่อยู่ในใจของสาธารณชนไปตราบนานเท่านานครับ”
แปลและเรียบเรียง DJ Actkie