นับเป็นปรากฏการณ์อีกครั้งที่ต้องบันทึกไว้เลยว่า.. กระแสแรงจริงและงานดีจริง!! สำหรับผลงานล่าสุด “วอนนาวัน เฟิร์ส แฟน มีตติ้ง อิน แบงคอก : วอนนา บี เลิฟ” (WANNA ONE 1st Fan Meeting in Bangkok : WANNA Be LovEd) เมื่อวันเสาร์ที่ 16 กันยายน 2560 ณ ไบเทค บางนา ฮอลล์ 106 ของ บริษัท โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด (Four One One Entertainment Co.,Ltd.) ซึ่งบิ๊กบอสคนเก่ง กึ้ง-เฉลิมชัย มหากิจศิริ คว้าตัวบอยแบนด์หน้าใหม่มาแรงสุดขีดขวัญใจทุกแฟนดอมแห่งวงการเคป็อป 11 หนุ่ม “วอนนาวัน” (WANNA ONE) ซึ่งคิวแน่นสุดๆ หลังเดบิวต์ได้เพียงแค่เดือนกว่าๆ มาจัดแฟนมีตติ้งนอกประเทศเกาหลีครั้งแรกที่เมืองไทย ให้รู้ๆ กันไปเลยว่าเหล่าวอนนาเบิลชาวไทย (WANNABLE : ชื่อเรียกกลุ่มแฟนคลับวง WANNA ONE) โชคดีกว่าใครจริงๆ 

 

 

 

 

ภาพฝูงชนแฟนคลับล้นหลามถล่มทลายมีให้เห็นตั้งแต่วันแรกที่เปิดจองบัตร จนถึงวันที่หนุ่มๆ “วอนนาวัน” เดินทางลัดฟ้ามาถึงประเทศไทย ณ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ก่อกำเนิดเป็นคลื่นวอนนาเบิลขนาดยักษ์ที่แผ่ปกคลุมไปทั่วบริเวณสถานที่จัดงานทั้งด้านหน้าและภายในฮอลล์ ณ ไบเทค บางนา ฮอลล์ 106 บวกกับพลังเสียงกรี๊ดที่ดังสนั่นตั้งแต่งานยังไม่เริ่มไปจนงานจบ เป็นเครื่องยืนยันได้ชัดเจนว่างานแฟนมีตติ้งครั้งแรกในประเทศไทยของ 11 หนุ่ม “วอนนาวัน” (WANNA ONE) นั้นประสบความสำเร็จมากขนาดไหน หนุ่มๆ สุดฮอตทั้ง 11 คน อันประกอบด้วย คังแดเนียล (Kang Daniel อายุ 20 ปี), พัคจีฮุน (Park Ji Hoon อายุ 18 ปี), อีแดฮวี (Lee Dae Hwi อายุ 16 ปี), คิมแจฮวาน (Kim Jae Hwan อายุ 21 ปี), องซองอู (Ong Seong Wu อายุ 22 ปี), พัคอูจิน (Park Woo Jin อายุ 17 ปี), ไลควานลิน (Lai Kuan Lin อายุ 15 ปี), ยุนจีซอง (Yoon Ji Sung อายุ 26 ปี), ฮวังมินฮยอน (Hwang Min Hyun อายุ 22 ปี), แบจินยอง (Bae Jin Young อายุ 17 ปี) และ ฮาซองอุน (Ha Sung Woon อายุ 23 ปี) เลือกเปิดฉากงาน “วอนนาวัน เฟิร์ส แฟน มีตติ้ง อิน แบงคอก : วอนนา บี เลิฟ” ด้วยเพลง ‘Pick Me’ ซึ่งเวอร์ชั่นที่เล่นในไทยนี้ ทั้งคึกคักและร้อนแรงไปด้วยแสงสีเสียง พลุไฟอลังการขั้นสุด ในขณะที่หนุ่มๆ วอนนาวันก็ร้องและเต้นได้เป๊ะสมกับเป็นเด็กฝึกที่ผ่านการคัดเลือกให้เป็นผู้ชนะจากรายการ PRODUCE 101 Season 2 แบบไม่มีข้อกังขา 

 

 

 

จบเพลงแรก วอนนาวัน หายกลับเข้าไปหลังเวที ปรากฏตัวแทนที่โดย “ดีเจนุ้ย” (ธนวัฒน์ ประสิทธิสมพร) พิธีกรของงานซึ่งออกมาทักทายและพูดคุยกับแฟนเพลงอย่างสนุกสนาน ก่อนจะชวนให้ทุกคนในฮอลล์เรียกหนุ่มๆ ออกมาด้วยการตะโกนพร้อมกันว่า “อยากเจอวอนนาวัน” แล้วกรี๊ดตามให้สุดเสียง! พอ 11 หนุ่มออกมาตามคำเรียกร้อง ก็มีการแนะนำตัวแล้วพูดคุยว่ามีเมมเบอร์คนไหนเคยมาเมืองไทยแล้วบ้าง ซึ่งมีอยู่ 3 คน คือ มินฮยอน ที่เคยมาถ่ายทำโฟโต้บุ๊ก ส่วน ซองอุน กับ ควานลิน นั้นเคยมาเที่ยวกับครอบครัว

 

ช่วงต่อมาเปลี่ยนเวทีให้กลายเป็นโรงเรียนเพื่อเล่นเกมในช่วงที่เรียกว่า  Welcome To Wanna One School โดยคาบแรกเป็น คาบเรียนวิชาภาษาไทย ซึ่งดีเจนุ้ยได้สอนสมาชิกทุกคนให้พูดภาษาไทยด้วยประโยค “วอนนาเบิลไทยสวยมากๆ” ซึ่งหนุ่มๆ มีการทอดเสียงอ้อนๆ ในตอนท้ายด้วย จากนั้นดีเจนุ้ยขอให้หนุ่ม ซองอู เป็นตัวแทนวอนนาวันพูดประโยคง่ายๆ แต่ได้ใจแฟนๆ ว่า “นั่งตรงนั้นไกลไปไหม มานั่งในใจผมดีกว่า” ซึ่งพอเจ้าตัวได้รู้คำแปลปุ๊บ ก็มีการกวักมือเรียกแฟนๆ ประกอบด้วย เล่นเอาสาวๆ กรี๊ดกันคอแทบแตกเพราะอยากจะขึ้นเวทีไปนั่งในใจตามคำชวน

 

จากนั้นพ่อหนุ่มสุดฮอต คังแดเนียล ลุกขึ้นมาบอกว่าพวกเขาได้เขียนความรู้สึกที่อยากบอกกับแฟนๆ เอาไว้ แล้วอยากเอามาพูดเป็นภาษาไทยให้วอนนาเบิลได้ฟัง ดีเจนุ้ยเลยจัดให้หนุ่มๆ ทั้ง 11 คนพูดกันคนละท่อนว่า “พวกเราวอนนาวันครับ / วันนี้เป็นแฟนมีตติ้ง / ครั้งแรกในชีวิต / ตื่นเต้นสุดๆ / มีความสุข / มากๆ ครับ / ขอบคุณสำหรับ / ความรัก / ที่มีให้ / จะไม่ลืมวันนี้เลย / รักไทยวอนนาเบิลครับ” แล้วพูดปิดท้ายพร้อมกันทุกคนว่า “รักนะจุ๊บๆ” ซึ่งความน่ารักของเกมแรกนี้อยู่ตรงที่หนุ่มๆ ฟังภาษาไทยกันอย่างตั้งอกตั้งใจ มีการจดโน้ตตามเสมือนจดเลคเชอร์กันเลยทีเดียว

 

 

ช่วงที่ 2 คาบเรียนศิลปะ มีกติกาอยู่ว่า ให้สมาชิกวอนนาวันทุกคนวาดรูปเพื่อนที่นั่งอยู่ข้างๆ ภายในเวลา 3 นาที ซึ่งแต่ละคนก็ตั้งอกตั้งใจวาดกันเต็มที่ มีทั้งวาดได้ดีจนทั้งฮอลล์ฮือฮา คือรูปที่ มินฮยอน วาด ควานลิน ออกมาได้หล่อเหมือนตัวจริงมาก แล้วก็มีวาดออกแนวตลก อย่างภาพที่ แดฮวี วาด จินยอง ออกมาหน้าเรียวแหลมเป็นรูปหัวใจ มีผมม้าปรกลงมาครึ่งหน้าผาก เจ้าตัวบอกว่าไม่รู้เหมือนกันทำไมวาดไปวาดมาแล้วดันเหมือน ดีเจนุ้ย ซะได้.. ฮาไปอีก! เล่นเอาคนในฮอลล์หัวเราะกันท้องแข็ง ปิดท้ายช่วงนี้ด้วยการจับฉลากหาผู้โชคดีที่ได้รับภาพวาดของหนุ่มๆ กลับไปเป็นที่ระลึก

 

 

เกมที่ 3 คาบเรียนเต้นรำ ดำเนินการเรียนการสอนโดยเปิดเพลงฮิตต่างๆ แล้วให้หนุ่มๆ โชว์เต้นท่าประจำเพลงนั้นๆ งานนี้มากันหมดเกาหลี ไม่ว่าจะเป็น ‘กังนัมสไตล์’ ซึ่งพิเศษตรงที่ให้หนุ่ม แดเนียล ออกมาเต้นโชว์เดี่ยวตรงเวทีด้านหน้า หรือเพลงฮิตอย่าง ‘Cheer Up’ ของสาวๆ วงทไวซ์, ‘Sorry Sorry’ ของซูเปอร์จูเนียร์ก็ไม่มีพลาด แต่ที่เด็ดสุดคือมีเพลงไทยรวมอยู่ด้วยคือ ‘ขอใจเธอแลกเบอร์โทร’ ของหญิงลี ศรีจุมพล จุดนี้ดีเจนุ้ยลุกขึ้นมาสอนท่าเต้นให้หนุ่มๆ เองเลย เล่นเอาวอนนาเบิลหัวเราะกันน้ำหูน้ำตาไหล เพราะไม่คิดว่าหนุ่มๆ จะเต้นสายย่อกันได้ดีขนาดนี้ 

 

สนุกกันต่อกับภาคคอนเสิร์ตที่ 11 หนุ่ม วอนนาวัน ขอปลุกเวทีให้ลุกเป็นไฟด้วยเพลงฮิต 3 เพลงรวด คือ ‘NEVER’, ‘Hands on Me’ และ ‘Burn It Up’ โมเมนต์นี้ โฟร์วันวันฯ จัดเต็มโปรดักชั่นทั้งภาพกราฟฟิก และเปลวไฟที่จุดปะทุขึ้นบนเวที ส่งให้ท่าเต้นอันสุดแสนจะเซ็กซี่ของพวกเขาร้อนฉ่าขึ้นไปอีกเป็นทวีคูณ จากนั้นจอภาพบนเวทีฉายวิดีโอเบื้องหลังการซ้อม 1 สัปดาห์ที่หนุ่มๆ เตรียมตัวสำหรับงานแฟนมีตติ้งครั้งนี้ แล้วหนุ่มๆ ตัวจริงบนเวทีก็เปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่ออกมาร้องเพลงจังหวะน่ารัก ‘Wanna Be (My Baby)’ ตามด้วยช่วงเซอร์ไพรส์วันเกิดหนุ่ม ควานลิน ซึ่งวอนนาเบิลชาวไทยได้มอบเค้กให้เป็นของขวัญ ขณะที่สมาชิกในวงมอบสร้อยคอพร้อมพระเครื่องให้ เล่นเอาเจ้าตัวยิ้มไม่หุบ บอกว่ามีความสุขและชอบมากถึงขนาดขอใส่สร้อยคอกันเดี๋ยวนั้นเลย 

 

เข้าสู่ช่วงโปรเจ็กต์พิเศษจากแฟนคลับที่ทำคลิปซึ้งๆ มาให้ หนุ่มๆ ทุกคนนั่งดูกันอย่างตั้งใจ ดูไปยิ้มไปหัวเราะไป ยิ่งพอหันหลังกลับมาเจอแฟนๆ ถือป้ายที่มีข้อความว่า “เราจะอยู่เคียงข้าง Wanna One เสมอ” จุดนี้เล่นเอาทุกคนร้องว้าว! โดยเฉพาะ จีซอง นั้นประทับใจถึงขั้นร้องไห้ออกมาเลยทีเดียว ซับน้ำตาแล้วมาสนุกสนานต่อกันในช่วง It’s Wanna One Time หรือช่วงตอบคำถามที่แฟนๆ ฝากไว้นั่นเอง  โดยคำถามแรกเป็นการขอให้ จีฮุน ทำวิ้งค์ (Wink) สองข้างให้ดู ซึ่งเจ้าตัวบอกว่ามีวิ้งค์แบบเซ็กซี่ กับวิ้งค์แบบน่ารัก ดีเจนุ้ยเลยขอให้ทำแบบเซ็กซี่ผสมน่ารักให้ดูซะเลย พอเจ้าตัวทำเสร็จก็เกิดอาการเขินยกมือขึ้นปิดหน้า เรียกเสียงกรี๊ดในความน่ารักไปได้อีก

 

ข้อต่อมาเป็นคำถามถึงหนุ่ม แดฮวี ว่าอาบน้ำนานจริงไหม? เล่นเอาเจ้าตัวถึงกับอุทานด้วยความประหลาดใจออกมาดังๆ ว่าไม่จริง ตัวเขาเป็นคนอาบน้ำเร็วนะ แถมยังเล่าข้อมูลสุดเอ็กซ์คลูซีฟให้ฟังด้วยว่าตอนที่อยู่หอรวมกัน 11 คน พวกเขาจะเป่ายิ้งฉุบกันว่าใครจะได้อาบก่อน ซึ่งเขาแพ้ตลอดเลยได้อาบเป็นคนสุดท้ายทุกครั้ง คำถามที่ 3 คือ ชอบกินอาหารไทยอะไรบ้าง? มินฮยอน ตอบว่าวันนี้ได้ชิมผัดไทยแล้วชอบมาก ขณะที่ แจฮวาน นั้นชอบปูผัดผงกระหรี่ (แต่เรียกชื่อไม่ถูก) ซองอุน ชอบมังคุด แล้วก็ จินยอง ชอบข้าวผัด ซึ่งจุดนี้ดีเจนุ้ยก็ทำหน้าที่ได้ถูกใจแฟนคลับมากด้วยการชงว่า “วอนนาเบิลไทยทำข้าวผัดเก่งทุกคนเลยนะ” พอหนุ่มจินยองได้ยินแบบนั้นก็ทำหน้าดีใจเบอร์ใหญ่มาก ปิดท้ายช่วงนี้ด้วยการให้หนุ่มๆ เซ็นเสื้อ Wanna Be Loved กันจะๆ บนเวทีแล้วจับฉลากมอบให้ผู้โชคดี 

 

มาถึงช่วง Photo Time ที่ วอนนาวัน ขอถ่ายเซลฟี่กับแฟนๆ เพื่อเก็บไว้เป็นความทรงจำ ก่อนจะเผยความรู้สึกที่มีต่องานแฟนมีตติ้งครั้งนี้กันทีละคน ซึ่งส่วนใหญ่บอกว่าประทับใจกับเสียงกรี๊ด กำลังใจ และความรักที่วอนนาเบิลชาวไทยมอบให้ พวกเขาไม่คิดเลยว่าจะได้รับความรักมากขนาดนี้ อยากจะลาแบบสบตากับทุกคน แล้วจะมาเมืองไทยบ่อยๆ เพื่อมาสบตากับวอนนาเบิลอีก ปิดท้ายที่น้องเล็ก ควานลิน ซึ่งขอพูดเป็นภาษาไทยว่า “ผมรักเมืองไทย” 

 

ได้เวลาโชว์เพลงฮิตที่ยึดครองอันดับหนึ่งแทบทุกชาร์ตบนเกาะเกาหลีอย่าง ‘Energetic’ โดยมีแฟนๆ ร้องตามสนั่นฮอลล์ จบเพลงมีข้อความขึ้นว่า “วันนี้...โมเมนต์นี้...เราจะจดจำคุณตลอดไป...รักพวกคุณ...วอนนาเบิล จากวอนนาวัน” แล้วตามด้วยเพลงช้าที่มีความหมายกินใจอย่าง ‘Always’ ถือเป็นการปิดท้ายงาน “วอนนาวัน เฟิร์ส แฟน มีตติ้ง อิน แบงคอก : วอนนา บี เลิฟ” ได้อย่างประทับใจไทยแลนด์ ** จบงานนี้ไปรอลุ้นผลงานดีๆ ครั้งต่อไปที่ บริษัท โฟร์ วัน วัน เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จำกัด จะคัดสรรมาเพื่อแฟนๆ ชาวไทย เกาะติดความเคลื่อนไหวได้ที่เว็บไซต์หลัก www.411ent.com ออฟฟิศเชียลแฟนเพจ www.facebook.com/fouroneoneent ทวิตเตอร์ @411ent รวมทั้งอินสตาแกรมของซีอีโอกึ้ง IG @kueng_chalermchai http://instagram.com/kueng_chalermchai