Talk to DJ
listen live

NEXT SONG
PREV SONG

ครบรอบ 10 ปี บนเส้นทางสายดนตรีของบอยแบนด์แถวหน้าแห่งวงการเพลงเกาหลี 'SHINee (ชายนี่)'

May 23, 2018 | ดู 3,121 ครั้ง

บอยแบนด์แถวหน้าแห่งวงการเพลงเกาหลีSHINee (ชายนี่)5 หนุ่มที่มาพร้อมกับสไตล์การแต่งตัวและแนวเพลงที่โดดเด่น ทันสมัย โดยชื่อวง SHINee มาจากการผสมคำว่า “Shine + ee” หมายถึง ผู้ที่เป็นดาวจรัสแสง และยังครอบคลุมถึงความมุ่งมั่นที่จะขยายกลุ่มแฟนเพลงด้วยแนวเพลงที่หลากหลายโดยไม่มีอายุและขอบเขตมาเป็นข้อจำกัด
 
‘SHINee’ ประกอบไปด้วยสมาชิกทั้งหมด 5 คน ได้แก่ ‘JONGHYUN’ (จงฮยอน),‘KEY’ (คีย์),‘ONEW’ (อนยู), ‘MINHO’(มินโฮ)และ ‘TAEMIN’ (แทมิน) โดยพวกเขาได้เดบิวต์อย่างเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม ปี 2551 พร้อมเพลงเดบิวต์ที่ชื่อว่า “Replay” ตามมาด้วยผลงานอัลบั้มชุดแรก ”SHINee World” ซึ่งก็ได้รับการตอบรับจากแฟนๆเป็นอย่างดีจนพวกเขาสามารถคว้ารางวัลศิลปินหน้าใหม่แห่งปี 2551 ในงานประกาศรางวัลที่มีชื่อเสียงของประเทศเกาหลีอย่าง Mnet Asian Music Awards และ Golden Disk Awards ไปครองได้สำเร็จ
 
ประวัติสมาชิก
 

    



ผลงานอัลบั้มที่ผ่านมา
 
2008.05.22 The First Mini Album <Replay>
 
 

'Replay' (รีเพลย์) (Release date; 2008-05-22)

เพลงเดบิวต์ของ 5 หนุ่ม ‘SHINee’อย่าง‘Replay’ (รีเพลย์) คือเพลงเปิดตัวจากมินิอัลบั้มชุดแรกของหนุ่มๆ ซึ่งเป็นผลงานจากความร่วมมือของสุดยอดนักดนตรี ไม่ว่าจะเป็น Jamie Jones แห่ง All 4 One,วงนักแต่งเพลงชื่อดัง`The Heavyweights`, นักแต่งเพลงมากฝีมือ Yoo Young Jin และคุณKim Young Hu โดยเพลงนี้ จะมีเนื้อร้องที่โดดเด่น เริ่มด้วยการบอกเล่าถึงการที่พี่สาวสวยมากทำให้พวกผู้ชายคงปล่อยเอาไว้ไม่ได้ อีกทั้งประโยคที่เป็นทั้งชื่อเพลง และท่อนฮุคอย่าง “누난 너무 예뻐 (นูนัน นอมู เยปอ)” ก็เป็นทำนองที่ติดหู และผสมผสานกันได้อย่างสมบูรณ์แบบ จนทำให้ผู้ฟังเกิดความประทับใจได้ไม่ยาก

 

2008.08.29 The First Album <SHINee World>
 
 

'Love like Oxygen' (เลิฟ ไลค์ ออกซิเจน) (Release date; 2008-08-28)

ในเดือนสิงหาคม ปี 2008 หนุ่มๆ ‘SHINee’ ได้ปล่อยอัลบั้มเต็มชุดแรกชื่อว่า ‘The SHINee World’ (เดอะ ชายนี่ เวิลด์) ซึ่งมาพร้อมกับเพลงเปิดตัวชื่อว่า ‘Love like Oxygen’ (เลิฟ ไลค์ ออกซิเจน) ที่เต็มไปด้วยเสน่ห์อันทรงพลังของ ‘SHINee’ โดยเพลงนี้ รีเมดมาจากเพลงฮิต‘Show the world’ของ Martin Hoberg Hedegaardผสมกับลักษณะพิเศษที่ไม่เหมือนใครของ ‘SHINee’ โดยจังหวะของเพลงนี้ มีการผสมผสานระหว่างจังหวะดิสโก้ฟังกี้ที่จะทำให้นึกถึงไมเคิล แจ็คสัน กับรูปแบบของกลองที่มักจะมีใน Black Music ด้านเนื้อร้อง เขียนขึ้นโดย Kim Young Hu ที่เคยเขียนเพลง 'Replay' และคุณ Kwon YoonJung ที่เคยเขียนเพลง ‘Hug’ ให้วง TVXQ! โดยจะพูดถึง การเปรียบเทียบความรักกับน้ำแข็ง, น้ำ และออกซิเจน นำเสนอความรู้สึกเจ็บปวดจากการปล่อยคนรักไป
 
สำหรับเวทีการแสดงของเพลงนี้ ได้รวบรวมท่าเต้นอันสง่างาม มีการใช้เก้าอี้ที่จะทำให้ผู้ชมสัมผัสได้ถึงเสน่ห์อันทรงพลังของ ‘SHINee’ มากกว่าด้านน่ารัก สดใสที่เคยโชว์ให้เห็นก่อนหน้านี้
 
 
2008.10.29 The First Repackage Album <AMIGO>
 
 
'Amigo' (อามีโก) (Release date; 2008-10-29)

‘Amigo’ (อามีโก) เพลงเปิดตัวจากอัลบั้มรีแพ็คเกจชุดแรก โดยชื่อเพลงมาจากพยางค์แรกของคำเกาหลีที่ว่า ‘อารึมดาอุน มี-นยอรึล โชวาฮามยอน โกแซงฮันดะ’ ที่แปลว่า ‘หัวใจจะเจ็บปวดหากหลงรักหญิงสาวสวย’อีกทั้งยังมีความหมายว่า ‘เพื่อน’ ในภาษาสเปนอีกด้วย

 
2009.05.25 The Second Mini Album <Romeo>
 

'Juliette' (จูเลียต) (Release date; 2009-05-25)

เพลงแนวเทรนดี้ เออร์เบิร์น แดนซ์ ‘Juliette’ เป็นเพลงเปิดตัวจากมินิอัลบั้มชุดที่ 2 ‘Romeo’ ที่มีซาวด์กลองแบบอะคูสติก และจังหวะที่งดงาม โดยหนึ่งในสมาชิกของวงอย่าง ‘JONGHYUN’(จงฮยอน) ได้โชว์ฝีมือการแต่งเพลงเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดบิวต์ในเพลงนี้
 
โดยมินิอัลบั้มชุดที่ 2 ‘Romeo’ นี้ ประกอบไปด้วยเพลงทั้งหมด 6 เพลง ซึ่งทุกเพลงจะมีความเชื่อมโยงกันเพื่อนำเสนอเรื่องราวเกี่ยวกับ ‘โรมิโอ และจูเลียต ในศตวรรษที่ 21’ โดยเนื้อเพลงในอัลบั้มนี้ จะมาจาก ‘โรมิโอ และจูเลียต ในศตวรรษที่ 21’ ของ ‘SHINee’ ทั้งเรื่องของความตื่นเต้น และสุขใจในรักครั้งแรก ไปจนถึงการเลิกราที่ทำให้หัวใจต้องเจ็บปวด เป็นต้น 
 
 
2009.10.22 The Third Mini Album <2009, Year Of Us>
'Ring Ding Dong' (ริง ดิง ดอง) (Release date; 2009-10-22)

เพลงฮิตที่ดังไปทั่วโลก ‘Ring Ding Dong’ เป็นเพลงแนว Afro-Electro ที่เรียบเรียงจากการรวมกันระหว่างจังหวะของกลองแบบ African Congo และสีสันอันทันสมัยของซาวด์ซินธิไซเซอร์ ผลงานของนักแต่งเพลงฮิตอย่างคุณ ‘Yoo Young Jin’
 
โดยเนื้อร้องจะสารภาพถึงการตกหลุมรักโดยไม่รู้ตัวราวกับพูดว่า “เกิดอะไรขึ้นกับฉัน”อีกทั้งยังมีการใช้จินตนาการนำคำว่า ‘Ring Ding Dong’ ที่เหมือนกับอยู่ในการ์ตูน มาใช้แทนเสียงกริ่งที่ดังอยู่ในหัวเมื่อตกหลุมรัก
 
 
2010.07.19 The Second Album <Lucifer>
 
'Lucifer' (ลูซิเฟอร์) (Release date; 2010-07-19)
 
 
เพลงแนว Urban Electronicaอย่าง ‘Lucifer’ นั้น มาจากการประกอบกันระหว่าง Electronica ซึ่งเป็น Break Dance ที่โด่งดังในปี 80 และทำนองซินธ์ โดยนำมาทำให้มีความทันสมัยยิ่งกว่าเดิม โดยเพลงนี้ จะมีเสน่ห์ที่น่าหลงใหล และความสดใส สดชื่นจากจังหวะที่งดงาม และหนักแน่น ด้านเนื้อร้องพูดถึงการเข้าใจไปเองว่าจิตใจที่เห็นแก่ตัว และความยึดติด คือความรัก ทำให้เกิดการข่มขู่ และการปลอบโยนซ้ำไปซ้ำมา โดยเปรียบเทียบ ‘LUCIFER’ กับคนรักที่มี 2 หน้า ทั้งนางฟ้า และซาตาน
 
 
2010.10.04 The Second Repackage Album <Hello>
 
 
'Hello' (เฮลโล่) (Release date; 2010-09-30)
 
 
หลังจากที่ ‘SHINee’ โชว์ให้เห็นเสน่ห์ที่ทรงพลัง และแข็งแรงผ่านเพลง ‘Lucifer’ ไปแล้ว ในอัลบั้มรีแพ็คเกจชุดที่ 2 ‘Hello’ นี้ ก็มาพร้อมกับเสน่ห์ที่แตกต่างโดยสิ้นเชิง ในเพลงเปิดตัว ‘Hello’ ที่ใช้ชื่อเดียวกับอัลบั้ม เป็นเพลงแนว R&B Pop สุดเทรนดี้ มีการผสมผสานระหว่างจังหวะที่ชัดเจน, ซาวด์ซินธ์ซ้ำๆ , และเสียงร้องอันไพเราะที่ฟังแล้วรู้สึกสดชื่น นอกจากนี้ เนื้อร้องของเพลงที่แสดงออกถึงความตื่นเต้นในเรื่องความรักที่มีต่อหญิงสาวคนพิเศษ ก็ยิ่งเพิ่มเสน่ห์ให้เพลงที่มีความนุ่มนวล สดใสมากยิ่งขึ้น
 
 
2012.03.21 The Fourth Mini Album <Sherlock>
 
 
'Sherlock (Clue+Note)' (เชอร์ลอค คลู+โน๊ต) (Release date; 2012-03-21)
 
 
 
ในปี 2555 ชายนี่กลับมาอีกครั้งพร้อมการแสดงระดับเวิล์ดคลาสกับมินิอัลบั้ม “Sherlock” (เชอร์ลอค) ที่เป็นการรวบรวมซาวด์ดนตรีแบบที่แปลกใหม่ ไม่เหมือนใครพร้อมกับความสุดยอดในทุกด้าน ไม่ว่าจะเป็นในแง่ของตัวเพลง การแสดงบนเวที และสไตล์ของทั้ง 5 หนุ่มในอัลบั้มนี้ที่ได้รับการวางแผนและผลิตออกมาให้มีคุณภาพสูงสุด
 
โดยมีเพลงเปิดตัวชื่อว่า “Sherlock (Clue+Note)” (เชอร์ลอค คลู+โน๊ต) ที่ใช้เทคนิคใหม่สุดล้ำที่เรียกว่า ‘Hybrid Remix’ ซึ่งเป็นการเอา 2 เพลงที่มีซาวน์แตกต่างกัน มามิกซ์รวมกันเป็นเพลงเดียวนอกจากนี้ ชื่อเพลง “Sherlock (Clue+Note)” ยังมีความสอดคล้องกับเนื้อเพลง โดยนักสืบเชอร์ล็อค (Sherlock) ต้องใช้เหตุผลนากรวิเคราะห์เบาะแส (Clue) ประกอบกับการใช้สัญชาตญาณที่ออกมาจากข้อความหรือสัญลักษณ์ (Note) ในการแก้ปริศนา ซึ่งจะทำให้แฟนๆได้สัมผัสถึงเสน่ห์ที่แตกต่างของหนุ่มๆ SHINee
 
 
2013.02.19 The 3rd Album Chapter 1.‘Dream Girl-The misconceptions of you’
 
 
'Dream Girl' (ดรีม เกิร์ล) (Release date; 2013-02-19)
 
 
“Dream Girl” เป็นเพลงเปิดตัวจากอัลบั้มเต็มชุดที่ 3 “Dream Girl - The Misconceptions Of You” (ดรีมเกิร์ล - เดอะมิซคอนเซปชั่นออฟยู) ที่หนุ่มๆ ‘SHINee’ โชว์ลุคโดดเด่น ทันสมัย และแนวดนตรีที่แสดงความเป็นตัวตนของพวกเขาออกมาอย่างชัดเจน โดย (ดรีม เกิร์ล) เป็นเพลงสไตล์ Acid Electro Funk สุดสดใสผลงานการแต่งของ Jordan Kyle (จอร์แดน ไคล์) ที่เคยฝากผลงานในเพลง “I Got A Boy” ของ Girls’ Generation และเสริมทัพโปรดิวเซอร์ชาวเกาหลี “Hyuk Shin” ที่เคยร่วมงานกับศิลปินระดับโลกอย่าง “Justin Bieber”
 
ด้านมิวสิควีดีโอ “Dream Girl” หนุ่มๆSHINeeได้ปล่อยมิวสิควีดีโอออกมาพร้อมกันถึง 2 เวอร์ชั่น ทั้งเวอร์ชั่นเต็ม ฝีมือการกำกับของคู่ดูโอ้ DIGIPEDI ที่ขึ้นชื่อในเรื่องของผลงานที่โดดเด่นไม่เหมือนใคร โดยหนุ่มๆ ได้ออกตามหาสาวในฝันผ่านการใช้เทคนิคแปลกใหม่สุดล้ำอย่าง Matrix Camera และ Trampoline (เตียงกระโดด) ส่วนมิวสิควีดีโอแดนซ์เวอร์ชั่นก็ได้นักออกแบบท่าเต้นระดับโลกอย่าง Tony Testa (โทนี่ เทสต้า) มาช่วยออกแบบท่าเต้นให้ 
 
 
2013.04.29 The 3rd Album Chapter 2 ‘Why So Serious?-The misconceptions of me’
 
 
'Why So Serious?' (วาย โซ ซีเรียส) (Release date; 2013-04-25)
 
 
หลังจากที่เพิ่งปล่อยเพลง “Dream Girl” จากอัลบั้มภาคแรก ‘Dream Girl - The Misconception of You’ หนุ่มๆ SHINee (ชายนี่) ก็กลับมาส่งต่อความฮิตกับเพลงเปิดตัว “Why So Serious?” (วาย โซ ซีเรียส) จากอัลบั้มภาคต่อ ‘Why So Serious? - The Misconceptions of Me’ (วาย โซ ซีเรียส - เดอะ มิสคอนเซ็ปชั้นออฟมี)
 
“Why So Serious?” เพลงแดนซ์ที่ผสมผสานทำนองแบบอิเล็คทรอนิกกับเมโลดี้หนักๆ ที่ถูกทำให้โดดเด่นขึ้นด้วยสไตล์ Funk Rock ซึ่งในเพลงนี้หนุ่มๆแปลงร่างเป็น “ผีดิบแสนโรแมนติก” โดยเนื้อเพลงบอกเล่าเรื่องราวของผีดิบที่อยู่ในความมืดมนมาเป็นเวลานาน กระทั่งมาตกหลุมรักมนุษย์สาว แฟนๆ จะได้พบการแปลี่ยนแปลงภาพลักษณ์และแนวดนตรีที่แตกต่างจากเพลง “Dream Girl” แบบสุดขั้ว
 
สิ่งที่พิเศษอีกอย่างหนึ่งในอัลบั้มนี้ คือทั้ง 9 เพลงในอัลบั้มจะมีความเชื่อมโยงกับอัลบั้มก่อนหน้าอย่าง "Dream Girl - The Misconception of You" ผ่านคีย์เวิร์ดที่ถูกซ่อนไว้เช่น เพลง “Spoiler” ฝีมือการแต่งเนื้อร้องของหนุ่ม ‘JONGHYUN’ ที่นำเอาชื่อเพลงในอัลบั้มภาคแรก และภาคที่สองมาเรียงร้อยเป็นเพลงใหม่โดยนอกจากแฟนๆเพลิดเพลินไปกับเพลงต่างๆ ในอัลบั้มแล้ว ยังสนุกกับการมีส่วนร่วมค้นหา และเชื่อมโยงคีย์เวิร์ดนั้นๆ ออกมาเป็นคำตอบในรูปแบบต่างๆ อีกด้วย
 
ด้านมิวสิควีดีโอเพลง “Why So Serious?” ก็ได้นักออกแบบท่าเต้นฝีมือระดับโลก Devin Jamieson ที่เคยร่วมงานกับซูเปอร์สตาร์อย่าง ไมเคิล แจ็คสัน, อัชเชอร์ และบริทนีย์ สเปียร์ รวมถึงหนุ่มๆ Super Junior (ซูเปอร์จูเนียร์) ในเพลง “Sexy, Free & Single” ซึ่งท่าเต้นในเพลง “Why So Serious?” ก็ได้สื่อถึงคอนเซ็ปท์ความเป็น “ผีดิบสุดโรแมนติก” ออกมาได้เป็นอย่างดี
 
2013.08.08 The 3rd Album ‘The misconceptions of us’
 
 
2013.10.14 The 5th Mini Album “Everybody”
 
 
'Everybody' (เอฟวี่บอดี้) (Release date; 2013-10-14)
 
 
‘Everybody’ เพลงเปิดตัวที่มาพร้อมกับดนตรีสไตล์ funky ในแนว Complextroที่ไม่เหมือนใคร โดยเพลงนี้มีท่อนฮุคติดหูอย่าง “Everybody, wake up, wake up!!” พร้อมกับเนื้อเพลงที่สื่อว่า ทั้ง 5 หนุ่มพร้อมแล้วที่จะปลุกทุกคนให้ตื่นมาพบกับความสนุกในเสียงเพลงไปกับพวกเขา โดยได้เปรียบเทียบตัวเองกับตัวละครในนิทานเด็กปรัมปราชื่อดังอย่าง ‘Pied Piper Of Hamelin’ นักเป่าปี่แสนเจ้าเล่ห์ที่ปลุกเด็กๆให้ออกมาสนุกสนานยามค่ำคืน
 
ด้านมิวสิควีดีโอเพลง ‘Everybody’ ก็มีนักออกแบบท่าเต้นอย่าง “Tony Testa” (โทนี่ เทสต้า) มาร่วมงานกันเช่นเคย โดยในเพลงนี้ Everybody หนุ่มๆ ได้โชว์ท่าเต้นสุดล้ำพร้อมกิมมิคมากมาย ไม่ว่าจะเป็นท่าเต้นแบบ หุ่นยนต์ตุ๊กตา, ท่าเลียนแบบการเป่าปี่ของ Pied Piper แห่ง Hamelin, ท่าไขลาน, กดรีโมท หรือช็อตไฟฟ้า ที่ทำให้สมาชิกแต่ละคนกลายเป็นหุ่นยนต์ พร้อมไฮไลท์ท่าเต้น “ใบพัดเฮลิคอปเตอร์” ที่จะทำให้ทุกคนตื่นตา ตื่นใจไปกับการเคลื่อนไหวอันทรงพลังของหนุ่มๆ SHINee ที่สอดคล้องกันทั้งเพลงอย่างไร้ที่ติ
 
 
2015.05.18 The 4th Album〈Odd〉
 
 
'View' (วิว) (Release date; 2015-05-18)
 
 
อัลบั้มเต็มชุดที่ 4 ”Odd” (อ๊อด) มาพร้อมกับเพลงเปิดตัวแนวดีพ เฮ้าส์อย่าง “View” (วิว) ที่หนุ่มจงฮยอนได้มีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อร้อง ซึ่งพูดถึงความสวยงามของความรักที่รู้สึกได้ผ่านทุกประสาทสัมผัส อีกทั้งยังได้ทีมโปรดิวซ์ชื่อดังของอังกฤษ ‘LDN Noise’ มาเป็นผู้แต่งเสียงดนตรีอันมีเอกลักษณ์ให้อีกด้วย และความพิเศษ คือ การที่สมาชิกทั้ง 5 คน ได้เดินทางมาถ่ายทำมิวสิควีดีโอเพลงนี้ที่ประเทศไทยเมื่อเดือนเมษายนปี 2558 โดยหนุ่มๆ ได้เลือกถ่ายทอดบรรยากาศในหลายโลเคชั่น และสามารถถ่ายทอดเสน่ห์ของเมืองร้อนอย่างประเทศไทยออกมาได้ร้อนแรงเป็นอย่างดี
 
 
2015.08.03 The 4th Album – Repackage 'Married To The Music'
 
 
'Married To The Music' (แมริด ทู เดอะ มิวสิค) (Release date; 2015-08-03)
 
 
เพลงเปิดตัวจากอัลบั้มรีแพ็คเกจชุดที่ 4 ‘Married To The Music’ (แมริด ทู เดอะ มิวสิค) เป็นเพลงที่มีดนตรีแนวฟังกี้ ดิสโก้จังหวะสนุกๆ โดยเนื้อร้องถูกเขียนขึ้นโดยทีม LDN Noise ซึ่งเป็นทีมเดียวกันกับที่ทำเพลง View ด้านเนื้อหาของเพลงนี้ จะพูดถึงหลากหลายความรู้สึกเวลาที่ตกหลุมรักในเสียงเพลง
 
 
2016.10.05 The 5th Album ‘1 of 1’
 
 
'1 of 1' (วัน ออฟ วัน) (Release date; 2016-10-05)
 
 
‘SHINee’ (ชายนี่) บอยแบนด์แถวหน้าแห่งวงการเพลงเกาหลี กลับมาพร้อมภาพลักษณ์สุดแนวอีกครั้งด้วยคอนเซปต์แบบย้อนยุคปี 90 ในอัลบั้มเต็มชุดที่ 5 ที่มีชื่อว่า ‘1 of 1’(วัน ออฟ วัน) พร้อมเพลงเปิดตัวที่ใช้ชื่อเดียวกันกับอัลบั้มว่า '1 of 1' (วัน ออฟ วัน) เพลงแนว New Jack Swing จากยุคปี 90 ตามสไตล์ของ ‘SHINee’ ที่มีการผสมผสานระหว่างท่วงทำนองอันนุ่มนวลของอาร์ แอนด์ บี กับจังหวะแบบฟังกี้ ด้านเนื้อเพลง พูดถึงความรักที่มีให้กับหญิงสาวเพียงคนเดียวเท่านั้น 
 
2016.11.15 The 5th Repackage Album ‘1 and 1’
 
 
'Tell Me What To Do' (เทล มี ว้อท ทู ดู) (Release date; 2016-11-15)
 
 
‘Tell Me What To Do’ (เทล มี ว้อท ทู ดู) เป็นเพลงเปิดตัวจากอัลบั้มรีแพ็คเกจชุดที่ 5 ที่มีชื่อว่า ‘1 and 1’ (วัน แอนด์ วัน) ซึ่งเป็นเพลงแนวอีโมชั่นนอล อาร์ แอนด์ บี จังหวะกลางๆ ที่มีองค์ประกอบของแนวดนตรีอีดีเอ็มสมัยใหม่เข้าไปร่วมด้วย โดยเนื้อเพลงพูดถึงคู่รักทั้งหลายที่อยู่ด้วยกันมานานจนชิน เสมือนเป็นอากาศให้แก่กันและกัน ที่พยายามจะเอาชนะปัญหาต่างๆ ที่กำลังเผชิญอยู่ 
 
และนี่คือผลงานทั้งหมดของ SHINee ตลอด 10 ปีเต็ม ซึ่งผลงานของพวกเขายังคงจรัสแสงอยู่ในเส้นทางดนตรีและในใจของ SHINee World ทุกคน และพวกเขายังคงเดินหน้าสร้างผลงานดีๆ ให้เราได้ติดตามกันอย่างต่อเนื่อง พวกเราก็ขอเป็นกำลังใจให้หนุ่มๆ SHINee ไปนานๆ เลย
 
ขอขอบคุณข้อมูลจาก SM True




:: Other hot news