หลังจากที่สุดยอดศิลปินชายแห่งเค-ป๊อป ‘TAEMIN’ (แทมิน) วง SHINee (ชายนี่) ได้เคยโชว์เวทีการแสดงที่มีความเซ็กซี่อย่างโดดเด่นผ่านอัลบั้มเต็มชุดที่ 2 ‘MOVE’ เมื่อเดือนตุลาคมปี 2017 พร้อมได้รับความรักอย่างมากมายจนทำให้เกิดอาการ ‘MOVE ซินโดรม’ ไปเรียบร้อยแล้วนั้น ล่าสุดในปี 2019 นี้ ‘TAEMIN’ ได้กลับมาโชว์เสน่ห์อันน่าหลงใหลที่เข้มข้นขึ้น และดนตรีอันมีเอกลักษณ์ที่อัพเกรดไปอีกขั้นในเพลงเปิดตัวใหม่ ‘WANT’ (ว้อนท์) จากมินิอัลบั้มชุดที่ 2

 

 

โดยมินิอัลบั้มชุดที่ 2 ‘WANT’ ได้ถูกปล่อยออกมาตามชาร์ตเพลงออนไลน์ต่าง ๆ ของเกาหลี และ iTunes, Apple Music, Spotify, QQMusic, KUGOUMusic, KUWOMusic, TrueID Music (http://bit.ly/TAEMIN_WANT), JOOX (https://goo.gl/G2SZ1n) ฯลฯ ในวันที่ 11 ก.พ. 62 เวลา 16.00 น. ซึ่งประกอบไปด้วย 7 เพลง ที่มีเสน่ห์อันหลากหลาย และสีสันทางดนตรีอันลึกซึ้งของศิลปินเดี่ยว ‘TAEMIN’ สำหรับเพลงเปิดตัวที่มีชื่อเดียวกับอัลบั้มอย่าง ‘WANT’ (ว้อนท์) นั้น เป็นเพลงแนวแดนซ์จังหวะเร็ว แบบสเปซ ดิสโก้ ซึ่งผสมผสานไปด้วยไลน์เบสที่เป็นจังหวะและคิกซาวด์ ด้านเนื้อร้องมีข้อความอันแสนดึงดูดส่งถึงอีกฝ่าย ที่ตกหลุมเสน่ห์ของชายหนุ่มผู้มีครบทั้งความเย้ายวนและบริสุทธิ์ ในส่วนของมิวสิควีดีโอเพลงนี้ ก็เต็มไปด้วยเสน่ห์อันน่าหลงใหลเย้ายวนของ ‘TAEMIN’ ที่เข้ากับบรรยากาศอันเข้มข้นของเพลง และท่าเต้นสุดเข้มแข็งร้อนแรงดึงดูดทุกสายตา

 

 

นอกจากนี้ ยังมีเพลงประกอบอัลบั้มอย่าง ‘Artistic Groove’ (อาร์ทิสติก กรู๊ฟ) เพลงป๊อปอันน่าประทับใจที่มีท่อนฮุคซ้ำ ๆ และไลน์ทำนองที่สะกดใจ ซึ่งเนื้อร้องจะเกี่ยวกับความรู้สึกดึงดูดของคนสองคนที่ตกหลุมรักกันตั้งแต่แรกพบเปรียบกับคลื่นทะเลอันไม่ราบเรียบ, เพลงป๊อปแบบไมเนอร์ สเกล ‘Shadow’ (แชโดว์) ที่เปรียบเทียบการไม่สามารถหลุดพ้นจากความทรงจำแห่งความรักที่ยังคงไม่ลืมเลือนกับเงา โดยเสียงร้องอันแสนเศร้าอย่างชัดเจนของ ‘TAEMIN’ จะแสดงออกถึงความเจ็บปวดจากการเลิกราที่แม้จะหนีสักเพียงใดก็ยังกลับมาที่เดิม ซึ่งทำให้เพลงนี้มีเสน่ห์ขึ้นไปอีก, เพลงแนวฟิวเจอร์ อาร์แอนด์บี บัลลาด ‘Truth’ (ทรูธ) ที่ใส่ความรู้สึกที่อยากจะมอบความจริงใจ แสดงออกคำว่า ‘รัก’ ออกมาในแบบที่ต่างออกไป, เพลง ‘Never Forever’ (เนเวอร์ ฟอเรเวอร์) แนวอาร์แอนด์บี ป๊อป ที่สื่อให้เห็นว่าแม้แต่ความรักเองก็ไม่เป็นนิรันดร์เมื่อต้องเผชิญกับการเลิกรา โดยเปรียบกับวงกลม 2 วงที่เชื่อมต่อกันเป็นสัญลักษณ์อินฟินิตี้ (∞) แล้วต้องแยกจากกันเป็น 2 วงอีกครั้ง, เพลง ‘Monologue’ (โมโนล็อค) แนวอาร์แอนด์บี บัลลาดที่ผสมผสานทำนองเปียโนกับการบรรเลงแบบสตริงควอเต็ต และเพลงปิดท้าย ‘WANT ~Outro~’ (ว้อนท์ เอ้าโทร) ที่ทิ้งท้ายความประทับใจสุดท้ายเอาไว้