มาถึงวันคอนเสิร์ต 6 สาว GFRIEND เปิดตัวในช่วงแรกด้วยความสดใสเต็มกำลังในเพลง Me Gustas Tu ต่อด้วยเพลงที่มีท่าเต้นสุดคิ้วบ์อย่าง Life is A Party และ Vacation จากนั้นสาวๆ ขอทักทายเหล่าบัดดี้ไทยที่มากันจนแน่นฮอลล์ โดย ยูจู บอกว่าตื่นเต้นมากๆ จนนอนไม่หลับพร้อมกับทิ้งท้ายเป็นภาษาไทยว่า “สนุกมั้ยคะ” ส่วน ลีดเดอร์โซวอน ก็ไม่รอช้า รีบอ้อนต่อเป็นภาษาไทยเช่นกันว่า “คิดถึงบัดดี้ไทยมากๆ ค่ะ” จากนั้นสาวๆ ก็พาทุกคนมาวอร์มร่างกายต่อกันอีกนิดด้วยเพลงจังหวะสนุกๆ อย่าง Glow ,Truly Love และ Love in The Air
จากนั้นพวกเธอก็ชวนให้ทุกคนมาแดนซ์กันต่อในเพลงฮิตอย่าง Love Whisper และ Windy Windy ซึ่งในเพลงนี้แฟนๆ ต่างร่วมกันชูแสงไฟจากโทรศัพท์ส่องสว่างสวยงามไปทั้งฮอลล์ จน น้องเล็กออมจี เอ่ยปากชมว่าเป็นโปรเจกต์ที่สวยงามมากๆ และยังบอกถึงความปรารถนาของ GFRIEND ที่อยากจะสื่อให้บัดดี้ทุกคนได้รับรู้เช่นกันว่าการมีเอเชียทัวร์ทำให้ความปรารถนาของ GFRIEND เป็นจริง เพราะได้เจอกับบัดดี้จากหลายๆ ประเทศ ได้รับกำลังใจจากทุกคนอย่างเต็มเปี่ยมทำให้มีพลังที่จะสร้างผลงานดีๆ ต่อไป ส่วนสาวโซวอนก็ขอให้กำลังใจและอวยพรบัดดี้ไทยกลับบ้างว่า “ขอให้สมหวังทุกสิ่งนะคะ (พูดไทย)” จากนั้นสาวๆ ก็พาซึ้งกันต่อในเพลงช้าความหมายดีอย่าง You are My Star และ A Starry Sky
ต่อด้วยสเตจพิเศษที่สาวๆ เตรียมตัวมาอย่างหนักกับยูนิต Hug Hug ที่มี เยริน, อึนฮา, ออมจี ออกมาร้องและเต้นในเพลง Shy Boy ส่วน โซวอน, ยูจู, ชินบี มาด้วยลุคแม่เสือสาวสุดคิ้วท์ในยูนิตชื่อ World Peace กับเพลง Monday Blues
ฟินสลบกับโชว์เต้นของสาวๆ กันไปแล้ว นางฟ้าทั้ง 6 ก็กลับขึ้นมาบนเวทีพร้อมส่งเพลงจังหวะสโลว์อย่าง You're Not Alone มากล่อมให้บัดดี้ไทยได้เคลิ้มกันอีกรอบ ก่อนจะขยับจังหวะขึ้นมาอีกนิดในเพลง Only 1 และ L.U.V จากนั้นสาวๆ ขอโชว์พลังเสียงหวานๆ ในเพลง Rough (Ballad Ver.) ที่บัดดี้ทุกคนฟังแล้วลงความเห็นพร้อมกันว่าเป็นเวอร์ชั่นที่ไพเราะสุดๆ อยู่ในฟีลลิ่งซึ้งสะเทือนอารมณ์กันพอหอมปากหอมคอแล้ว สาวๆ ก็ขอพาทุกคนไปสนุกกับเพลง Flower Garden และ Sunrise ต่อด้วยเพลง Time For The Moon Night ที่สาวๆ GFRIEND ร้องเนื้อเพลงเป็นภาษาไทยให้บัดดี้ไทยฟังโดยเฉพาะกับประโยคที่ว่า “ในค่ำคืนนี้นั้น ฉันจะบินขึ้นไปบนท้องฟ้า As time time for the moon night ในความฝันที่ฉันจะเจอเธอ” แถมยังร้องให้ฟังสดๆ อีกครั้ง สนุกกันต่อแบบ Non Stop กับเมดเล่ย์เพลงฮิตอย่าง Memoria (Korean Ver.) , Flower (Korean Ver.), Crush และ Fingertip ก่อนจะทิ้งท้ายความสนุกด้วยเพลง Navillera
แต่แสงไฟบนเวทีดับลงได้ไม่นาน เหล่าบัดดี้ทั่วทั้งฮอลล์ต่างก็พร้อมใจกันตะโกนเรียก “ยอจาชินกู” แบบดังกระหึ่มจนนางฟ้าทั้ง 6 กลับขึ้นมาบนเวทีอีกครั้งในช่วงสุดท้ายกับเพลง Hope ที่สาวๆ ตั้งใจช่วยกันแต่งเนื้อร้องบอกถึงความรู้สึกในใจให้บัดดี้ทุกคนได้รู้ผ่านเนื้อเพลงความหมายดีๆ โดยในเพลงนี้แฟนๆ ทั่วทั้งฮอลล์ต่างพร้อมใจกันยกป้ายข้อความว่า “어제든 힘들면” และข้อความที่ว่า “지금 이 순간 생각하고 우리 다시 만나요.” แปลว่า “ถ้าหากวันไหนพวกคุณเหนื่อยล้า” “คิดถึงภาพวันนี้ไว้ แล้วมาเจอกันอีกครั้งนะ” ทำเอาสาวๆ เซอร์ไพรส์และทำให้บรรยากาศในคอนเสิร์ตร้อนแรงมากขึ้น