“อึนจี” ปรากฏตัวอีกครั้งด้วยชุดธีมสีแดง ที่เธอบอกว่าเมื่อนึกถึงสีแดงเธอมักจะนึกถึง “ความรัก” ฉะนั้นเพลงในช่วงที่สองจึงเต็มไปด้วยบทเพลงแห่งความรักที่มีหลากหลายอารมณ์ ไม่ว่าจะเป็นเพลง The Spring , Thinking About You และ It’s Ok ที่เธอโชว์พลังเสียงขึ้นไฮโน้ตให้แฟนๆ ได้ขนลุก และตามด้วย 2 เพลงรักที่ซึ้งไม่แพ้กันอย่าง 두고 왔나 봐요 และ B ซึ่งเป็นเพลงที่เธอไอเดียจากการฟังเรื่องราวต่างๆ จากแฟนรายการวิทยุ มาช่วยในการแต่งเพลงอีกด้วย
ผ่านไป 10 เพลงแต่พลังเสียงร้องสดของ “อึนจี” ยังแรงดีไม่มีตก แน่นอนว่านอกจากเพลงที่ทุกคนอยากฟังแล้ว อึนจีก็มีเพลงที่เธออยากร้องให้แฟนๆ ฟังเช่นกัน กับเพลง Chandelier และ When We Were Young เพลงสากลที่เธอร้องออกมาได้ทรงพลังไม่แพ้ต้นฉบับ สะกดแฟนๆให้ดำดิ่งไปด้วยกันกับเธอ ก่อนจะตามด้วยเพลง You’re My Garden เพลงประกอบซีรี่ส์ดัง ที่แฟนๆ ร้องตามได้เสียงดังไม่แพ้กัน
เวลาความสนุกจะผ่านไปเร็วเสมอ แต่ความน่ารักสดใสของสาวอึนจียังคงเต็มเปี่ยม กับการเซอร์วิสแฟนๆ อย่างทั่วถึงด้วยการปรากฏตัวที่ด้านข้างฮอลล์ พร้อมกับเพลง All For You ที่เธอร้องไปพร้อมๆ กับเดินไปหาชาวแพนด้าที่อยู่ทุกโซนในฮอลล์อย่างทั่วถึง และตามด้วยเพลง The Box เป็นการเปิดธีมสีเขียว เพลง Being There และ Seoul’s Moon ที่แฟนๆ พร้อมใจชูป้ายโปรเจ็กต์ที่มีข้อความพ้องกับเพลงว่า “ใต้พระจันทร์ดวงเดียวกัน เราจะอยู่เคียงข้างคุณเสมอ” และเพลง Hopefully Sky เป็นเพลงสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดของคอนเสิร์ตครั้งนี้