ทำไมอัลบั้มล่าสุดถึงใช้ชื่อว่า ‘DREAM WISH’?

อึนโจ : สำหรับอัลบั้มแรกของพวกเราชื่อว่า ดรีมโน้ต (DREAMNOTE) ส่วนอัลบั้มที่ 2 ก็ชื่อว่า ดรีมอัส (DREAM:US) ซึ่งทั้งสองอัลบั้มแสดงออกถึงความสดใส เด็กผู้หญิงที่มีชีวิตชีวา และสุขภาพดีผ่านเรื่องราวที่เรียกร้องให้มีคาถาแห่งความรักในดินแดนแห่งความฝัน แต่สำหรับอัลบั้มล่าสุดนี้ พวกเราหวังว่าความฝัน และพลังของพวกเราจะถูกส่งต่อไปยังแฟนๆ ทุกคนด้วยการก้าวกระโดดอย่างทรงพลังของดรีมโน้ตเพื่อเป็นจุดเริ่มต้นใหม่ของปี 2020 ดังนั้นอัลบั้มนี้จึงชื่อว่า ดรีมวิช (DREANWISH) ค่ะ

 

แต่ละคนชอบเพลงไหนในอัลบั้มนี้มากที่สุดเพราะอะไร

มิโซ : เพลง “Love is so amazing” ค่ะ มันเป็นเพลงที่คุณสามารถฟังได้เป็นเวลานานโดยไม่มีความกดดัน หรือทำให้เครียด คือเป็นเพลงที่ฟังแล้วรู้สึกผ่อนคลายค่ะ

ยูไอ : ฉันชอบเพลง “BITTERSWEET” ค่ะ เพราะว่าปกติพวกเรามักจะได้ร้องเพลงที่สดใส แต่เพลงนี้เป็นเพลงที่พวกเราได้แสดงถึงทักษะการร้องเพลงที่มากขึ้น น่าสนใจกว่าครั้งก่อนๆ ค่ะ

โบนี : ฉันชอบเพลง “Love is so amazing” ฉันเลือกเพลงนี้เพราะฉันชอบเนื้อเพลงที่ทำให้มีความรู้สึกถึงรักครั้งแรกค่ะ

ลาร่า : เพลง “Love is so amazing” คือเพลงที่ฉันชอบจากอัลบั้มนี้ค่ะ มันเป็นเพลงที่มีท่วงทำนองที่ค่อนข้างช้าที่พวกเราได้ลองกันเป็นครั้งแรกซึ่งก็เป็นการแสดงให้เห็นถึงเสน่ห์ของพวกเราได้อีกมุมนึงค่ะ 

อึนโจ : ฉันรักเพลง “LA ISIA BONITA” ค่ะ ฉันคิดว่าเพลงนี้มันเหมาะสมกับพวกเรามากเพราะเป็นเพลงที่มีภาพลักษณ์ที่สดใสมากกว่าเพลงช้าอื่นๆ ค่ะ

ซูมิน : ฉันชอบเพลง “BITTERSWEET” เพราะเพลงนี้เต็มไปด้วยเนื้อเพลง และทำนองเพลงที่หวานอมขมกลืน มันจึงติดหูของฉันมากๆ ค่ะ

 

นอกจากเพลง WISH แล้วในอัลบั้มยังมีเพลงอื่นๆ อีกด้วย พูดถึงเพลงอื่นๆ ให้ฟังหน่อย

โบนี : สำหรับเพลง “Love is so amazing” เป็นเพลงที่เต็มไปด้วยท่วงทำนอง และเนื้อเพลงที่ทุกคนสามารถมาร่วมเป็นส่วนหนึ่งไปด้วยกันได้ เพลงนี้ได้รวบรวมความรู้สึกที่สดชื่น น่าตื่นเต้นของความรักครั้งแรกอีกด้วย

ส่วนเพลง “BITTERSWEET” คือเพลงป็อปที่แสดงถึงความหวาน และขมขื่นของความรู้สึกระหว่าง เหตุผล และอารมณ์ของเสียงในบ้านที่เย็นระเยือก 

“LA ISIA BONITA” ส่วนเพลงนี้เป็นเพลงป็อปที่แสดงออกถึงภาพลักษณ์ความน่ารักของดรีมโน้ตและทำให้กลายเป็นความจริงให้ทุกคนได้สัมผัส