เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคมที่ผ่านมา นักร้อง J-Pop ชื่อดัง Kenshi Yonezu ได้ปล่อย “Pale Blue” เพลงรักอันเป็นที่รอคอยเพลงล่าสุดของเขาออกมา หลังจากที่ได้รับความนิยมจากเพลงรักสุดฮิตของเขาอย่าง “Lemon” ซึ่งติดอันดับที่ 1 บนชาร์ตเพลงรายปีของ Billboard Japan เป็นระยะเวลาถึงสองปีต่อเนื่อง และเป็นเพลงแรกที่สามารถทำสถิตินี้ได้

 

เพลง “Pale Blue” เปิดตัวให้ฟังกันเต็ม ๆ ครั้งแรกในตอนที่ 6 ของละครในคืนวันศุกร์เรื่อง“Riko Katsu” ทางช่อง TBS ในฉากสุดท้ายของเรื่องราวอันน่าสะเทือนใจนี้ซึ่งกำลังติดเทรนด์อันดับ 1 ในโลกบน Twitter และได้ลงช่องทางสตรีมมิ่งต่าง ๆ ในวันที่ 31 พฤษภาคมตอนเที่ยงคืนตามเวลาของประเทศญี่ปุ่น

 

 

ในวันและเวลาเดียวกันนั้น ผลงานที่ผ่าน ๆ มาทั้งหมดของ Yonezu รวมไปถึงเพลงล่าสุดอย่าง “Pale Blue” เพลงประกอบรายการ news zero “Daydream”, “Lemon”, “Uma to Shika”, “Matryoshka”, “Panda Hero” และผลงาน Vocaloid P ของเขาภายใต้ชื่อ Hachi ก็จะสามารถถูกนำมาใช้เพื่อถ่ายคลิปได้ใน TikTok อีกด้วย

 

 

พร้อม ๆ กับการปล่อยเพลงเพลงใหม่ของ Yonezu ภาพยนตร์เรื่อง CHILDREN OF THE SEA โดย Ayumu Watanabe และ STUDIO4℃ ก็จะกลับเข้าสู่โรงภาพยนตร์บางส่วนในสหรัฐอเมริกาในวันที่ 13 และ 15 มิถุนายนนี้ CHILDREN OF THE SEA ได้เพลง “Spirits of the Sea” ของ Yonezu เป็นเพลงประกอบ และเป็นภาพยนตร์เรื่องล่าสุดจาก STUDIO4℃ ของญี่ปุ่น (ที่เป็นที่รู้จักจาก Tekkonkinkreet, MFKZ, Mind Game, Animatrix, Batman: Gotham Knight และอื่น ๆ) โดยได้รับการกำกับโดย Ayumu Watanabe

ที่ร่วมงานกับนักแต่งเพลงเจ้าของรางวัลมากมายผู้ซึ่งเคยร่วมงานกับ Studio Ghibli กันมาอย่างคุ้นตาอย่าง Joe Hisaishi (Spirited Away, Howl’s Moving Castle, My Neighbor Totoro) โดยเนื้อเรื่องของ CHILDREN OF THE SEA นั้นได้รับการปรับมาจากมังงะภายใต้ชื่อเดียวกันโดย Daisuke Igarashi ผู้เป็นเจ้าของรางวัล Ecellence Prize ที่ Japan Media Arts Festival

 

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ Kenshi Yonezu ได้สร้างสถิติและประวัติศาสตร์ของตัวเอง เพราะเขายังเพิ่งได้รับเลือกเป็นศิลปินเอเชียคนแรกสำหรับอีเว้นท์ออนไลน์ STRAY SHEEP ของ Fortnite เมื่อไม่นานมานี้ด้วย เขาได้ปล่อยอัลบั้ม “STRAY SHEEP” ในวันที่ 5 สิงหาคมในปีเดียวกัน และมียอดส่งออกมากกว่าล้านอัลบั้มก่อนวันวางแผง รวมไปถึงยอดขายกว่าล้านอัลบั้มภายในวันที่ 13 สิงหาคม ยอดขายของอัลบั้มนี้ไปถึง 1.5 ล้านแผ่นและได้ถึง 2 ล้านแผ่นในชาร์ตสะสมของ Oricon ทำให้ Yonezu ได้อันดับที่ 46 ในชาร์ตสิ้นปีของปี 2020

 

 

ไม่ว่าจะเป็นคอนเสิร์ตออนไลน์ที่สร้างสรรค์ ในเกมที่มีผู้เล่นมากกว่า 350 ล้านคนอย่าง FORTNITE การร่วมงานกับ Uniqlo สำหรับเสื้อคอลเลคชั่น UT T-shirt ของเขาที่สามารถซื้อได้ในช็อปทั่วโลก หรือการร่วมงานกับ GIVENCHY ใน SS21 collection look book ร่วมกับดาราที่โด่งดังจากทั่วทุกมุมโลก ความพยายามในหลาย ๆ ด้านของเขาก็ล้วนแล้วแต่ทำให้ Yonezu เป็นที่ต้องตาทั้งในและนอกประเทศญี่ปุ่น เขาได้รับเลือกเป็นอันดับที่ 7 ในชาร์ต IFPI GLOBAL และมีชื่อเป็นหนึ่งใน Asia’s Digital Stars 100 ของ Forbes นอกจากนี้แล้วเขายังได้รับรางวัล Best Newcomer และรางวัลจากกระทรวงการศึกษา วัฒนธรรม กีฬา วิทยาศาสตร์ และศิลปะเทคโนโลยีในประเทศญี่ปุ่นอีกด้วย

 

ในส่วนของ music video ของเขา “Lemon” นั้นมียอดวิวมากกว่า 660 ล้านวิวและเลขนี้ก็ยังคงไต่สูงขึ้นเรื่อย ๆ ระหว่างการสร้างประวัติศาสตร์ในฐานะศิลปินญี่ปุ่นของเขา เพลงทั้ง 14 เพลงของเขา (“Lemon”, “Eine Kleine”, “LOSER”, “Peace Sign”, “Haiiro to Ao [ร่วมกับ Masaki Suda]” [“Grey And Blue”], “orion”, “Flamingo”, “Uchiage Hanabi” [“Fireworks”], “Shunrai” [“Spring Thunder”], “Paprika”, “Uma To Shika” [“Horse and Deer”]) , “Paprika” sung by Foorin, “Machigai Sagashi” [“Spotting The Mistake” ร้องโดย Masaki Suda], “Kanden”) ล้วนมียอดมากกว่า 100 ล้านวิว และเขายังมีผู้ติดตามมากกว่า 5.75 ล้านคนใน Official YouTube Channel ของเขาอีกด้วย