TofuPOP Radio ได้เข้าร่วมงาน Online Press Conference ของ KANGTA ที่กลับมาพร้อมอัลบั้มเต็มชุดที่ 4 ‘Eyes On You’ วันนี้เรามีบทสัมภาษณ์จากงานในวันนั้นมาให้ทุกท่านได้อ่านกันค่ะ
1. ต้องเป็นความรู้สึกที่พิเศษมากแน่ๆ กับการคัมแบ็กในช่วงครบรอบเดบิวต์ 26 ปีของคุณ รู้สึกอย่างไรบ้าง?
คังตะ (KANGTA) : ยังไม่รู้สึกว่าเป็นเรื่องจริงเลยครับ และผมก็รู้สึกประหม่าด้วย น่าจะไม่ได้รู้สึกว่ามันคือเรื่องจริงจนกระทั่งผมได้อัลบั้มชุดใหม่มา ผมจะทำให้เต็มที่มากเท่าที่กังวลเลยครับ ต่างจากตอนที่ผมต้องวิ่งงานจากสตูดิโอไปงานอีเวนต์ และสถานีออกอากาศต่าง ๆ การพบปะกับแฟนคลับทางออนไลน์ในทุกวันนี้ทำให้ผมรู้สึกไม่ค่อยเป็นธรรมชาติ ผมกังวลมากเกี่ยวกับการแสดงในรายการเพลงที่จะเริ่มในวันพรุ่งนี้ และผมจะพยายามทำการแสดงออกมาให้ดีที่สุดครับ
2. แนะนำเกี่ยวกับอัลบั้มเต็มชุดที่ 4 “Eyes On You”
คังตะ (KANGTA) : ปีที่แล้วเป็นการครบรอบเดบิวต์ 25 ปีของผม ผมก็สงสัยว่า ผมสามารถทำอะไรได้บ้าง และผมก็ได้ปล่อยอัลบั้มที่เป็นโปรเจกต์ออกมาทุกไตรมาส เพื่อสื่อสารกับแฟน ๆ ของผมผ่านดนตรีครับ อัลบั้ม “Eyes On You” ประกอบไปด้วยเพลงที่หลากหลาย ทั้งหมด 10 เพลง ซึ่งไม่ได้มีแค่เพลงใหม่อย่างเดียวนะครับ แต่ยังมีเพลงที่ผมนำเสนอไปในช่วงปีที่แล้วด้วย
เหนือสิ่งอื่นใด ผมได้พยายามรวมสไตล์การร้องเพลงใหม่ ๆ และเปลี่ยนเสียงร้องของผม เพื่อแสดงด้านใหม่ของผมออกมาครับ อัลบั้มนี้ ถูกเตรียมการมาเป็นอย่างดี เนื่องจากมีศิลปินหลายท่านมาร่วมร้องด้วย ไม่ว่าจะเป็น TAEYONG จาก NCT, แร็ปเปอร์ Paloalto และวง R&B soul อย่าง Heritage ที่มาร่วมในฐานะนักร้องประสานเสียงที่ยอดเยี่ยม
3. เพลงไตเติล “Eyes On You” เป็นเพลงประเภทไหน
คังตะ (KANGTA) : “Eyes On You” เป็นเพลงป็อป R&B แต่มีความรู้สึกที่เปี่ยมไปด้วยจิตวิญญาณมากกว่า อย่างไรก็ตาม เพลงนี้มีท่วงทำนองที่สวยงามและฟังง่าย ผมจึงรักเพลงนี้ครับ ผมอยากแสดงเพลงนี้ และผมก็สงสัยว่า ผมจะทำได้อย่างไร เพราะไม่ใช่เพลงที่มีจังหวะเร็วและคึกคัก แต่คนที่ออกแบบท่าเต้นเพลงนี้ก็ทำออกมาได้ดีมาก และผมก็เริ่มซ้อมล่วงหน้านานแบบตัวต่อตัว ก่อนที่อัลบั้มจะปล่อยครับ
4. มีเหตุผลพิเศษที่ต้องใช้เวลานานในการปล่อยอัลบั้มนี้ไหม? คุณเตรียมการสำหรับอัลบั้มนี้อย่างไร และรู้สึกถึงแรกกดดันบ้างไหม?
คังตะ (KANGTA) : การปล่อยอัลบั้มนี้ใช้เวลาสักพักเลยครับ เนื่องจากผมทำงานอยู่ที่ประเทศจีนและประเทศอื่น ๆ อีกทั้งผมยังรู้สึกว่า การปล่อยอัลบั้มจะเยอะมากเกินไป ผมรู้สึกกดดันมากเกี่ยวกับความสำเร็จ แต่ผมก็คิดว่า การสื่อสารกับแฟนคลับผ่านเสียงเพลงเป็นเรื่องที่จำเป็น ผมรู้สึกเสียใจต่อแฟน ๆ ที่ผมไม่สามารถสื่อสารได้บ่อยกว่านี้ และผมก็หวังว่า พวกเขาจะได้ฟังอัลบั้มใหม่ของผม และรู้สึกภูมิใจที่เพลงของผมพัฒนาขึ้นครับ
5. คุณคิดว่าสิ่งที่น่าสนใจที่สุดสำหรับอัลบั้มนี้คืออะไร?
คังตะ (KANGTA) : ผมคิดว่า พัฒนาการของเพลงของผมครับ เมื่อแฟน ๆ นึกถึงอัลบั้มของผม พวกเขามักจะนึกถึงเพลงบัลลาด อย่างไรก็ตาม อัลบั้มนี้มีความสมบูรณ์มากขึ้น ด้วยแนวเพลงและสีสันใหม่ ๆ ครับ ผมพยายามท้าทายหลาย ๆ อย่างสำหรับอัลบั้มชุดนี้ และนั่นคือจุดที่น่าตื่นเต้นที่สุดครับ
6. ขั้นตอนในการเลือกเพลงเป็นอย่างไร? และเพลงไหนคือเพลงโปรดของคุณ?
คังตะ (KANGTA) : สำหรับอัลบั้มนี้ ทีม A&R และผมได้รับเพลงตัวอย่างมาเยอะมากเลยครับ และแม้หลังจากที่เราตัดสินใจในเรื่องเพลงแล้ว เราได้ทบทวนเนื้อเพลง และหลาย ๆ สิ่งอย่างถี่ถ้วนร่วมกับทีมงานครับ ถ้าไม่นับเพลงไตเติล เพลงโปรดของผมจากในอัลบั้มนี้ คงจะเป็นเพลง “Skip” ที่ผมทำร่วมกับ TAEYONG ครับ เพราะว่าในตอนที่ผมกำลังทำเพลงนี้ ผมสามารถเรียนรู้วิธีที่จะสื่อสารกับศิลปินรุ่นน้องได้ โดยที่ไม่ต้องคิดถึงปีเดบิวต์หรือช่องว่างระหว่างวัยเลยครับ และทำให้ผมมีโอกาสในการสื่อสารกับศิลปินรุ่นน้องหลาย ๆ คนมากขึ้นด้วยครับ
7. ในตอนที่เตรียมอัลบั้มนี้ อะไรที่คุณรู้สึกว่าเปลี่ยนแปลงไปมากที่สุด? และอะไรเป็นสิ่งที่คุณใส่ใจมากที่สุด?
คังตะ (KANGTA) : ผมคิดว่า ผมรู้วิธีที่จะร้องเพลงที่อินเทรนด์นะครับ เพราะว่าผมฟังอยู่ตลอด ถึงแม้ว่าผมจะไม่ได้ปล่อยอัลบั้มบ่อยเท่าไหร่ แต่กลับกลายเป็นว่า มันแตกต่างจากที่ผมคาดคิดเอาไว้มากครับ ผมใส่ใจเป็นอย่างมากในเรื่องกระแสของเสียงร้องและรูปแบบของท็อปไลน์ผ่านหูของผม แต่การแสดงออกมานั้นค่อนข้างยากครับ นอกจากนี้ เพลงก็มาในรูปแบบที่สั้นลงเมื่อเทียบกับเมื่อก่อน เพลงสั้นลงแต่ก็ยังต้องแสดงออกมาถึงสิ่งใหม่ ๆ และต้องมีความอิมแพ็ค เพราะฉะนั้น ผมจึงคิดหนักมากว่า จะบรรยายออกมาในเวลาอันสั้นได้อย่างไรครับ
8. มีอะไรที่อยากบอกกับแฟนคลับไหม?
คังตะ (KANGTA) : ผมคิดว่า แฟน ๆ ที่คอยสนับสนุนผมมาตลอด 26 ปี คือ ตลอดไปครับ 26 ปีนี่ยาวนานเกินครึ่งชีวิตของผมอีกนะครับ ตอนที่ผมได้มีโอกาสได้เขียนจดหมายถึงแฟนคลับหรือว่าแฟนคอมมูนิตี้ ผมมักจะเขียนเสมอว่า “มาอยู่ด้วยกันไปจนกว่าพวกเราจะแก่และเหนื่อยเลยนะ” พวกเราทุกคนจะอายุมากขึ้น ภาพลักษณ์และอายุของพวกเราก็จะเปลี่ยนไป แต่ผมก็ยังอยากร้องเพลงอยู่เคียงข้างพวกคุณต่อไปครับ
9. ในฐานะของไอดอลยุคแรก คุณมีความคิดอย่างไรเกี่ยวกับกระแสเกาหลี (Korean Wave)? และช่วยเล่าความรู้สึกที่ได้ทำการแสดงร่วมกับไอดอลยุคแรกมาจนถึงยุคที่ 4
คังตะ (KANGTA) : ผมคิดว่า มันคงจะยากสำหรับพวกเขาแน่ ๆ ที่ต้องทำการแสดงไปทั่วโลกบนเวทีต่างชาติมากมาย ผมคิดว่า แรงกดดันที่มีต่อไอดอลสมัยนี้ต่างจากสมัยก่อน และผมก็ยังคิดอีกว่า นับเป็นโชคดีเหมือนกันที่พวกเขาได้มีโอกาสทำงานในหลายตลาดที่สำคัญกว่าครับ แม้เวลาจะเปลี่ยนไปมาก แต่การดูการแสดงและผลงานของพวกเขา ช่วยผลักดันให้ผมทำงานโดยที่ไม่ต้องนึกถึงเรื่องอายุเลยครับ
10. มีอะไรอยากจะบอกศิลปินรุ่นน้องไหม?
คังตะ (KANGTA) : ผมภูมิใจมากและก็อิจฉาพวกเขาเช่นกันครับ นั่นเพราะว่าผมไม่ได้คาดหวังว่า ทั้งโลกจะฟังเพลงของผมตอนที่ผมปล่อยอัลบั้มออกมา แม้ว่าผมจะเคยทำงานที่ประเทศจีนก็ตาม ทุกวันนี้มันกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วครับ สำหรับไอดอลที่จะได้รับความสนใจจากทั่วโลก และผมก็สงสัยนะครับว่า จะรู้สึกอย่างไรกันบ้าง
KANGTA และ พิธีกรของงาน MAX CHANGMIN
11. ช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดของคุณคือช่วงไหน?
คังตะ (KANGTA) : ผมไม่สามารถลืมช่วงเวลาที่ผมได้รับอัลบั้มเดบิวต์ของผมได้เลยครับ ช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุด คือ เมื่อครั้งแรกที่ผมเห็นคาแรกเตอร์ของผมถูกวาดลงไปบนอัลบั้มชุดแรก และแผ่นซีดีที่มีทั้งเสียงและชื่อของผมครับ
12. อยากจะประสบความสำเร็จอะไรในอัลบั้มชุดนี้ และมีแผนการในอนาคอย่างไรบ้าง?
คังตะ (KANGTA) : ถ้าแฟนคลับที่อยู่กับผมมาเป็นเวลา 26 ปี รู้สึกภูมิใจและพึงพอใจกับเพลงของผม นั่นคือความสำเร็จที่สำคัญที่สุดแล้วครับ ผมทำอัลบั้มนี้พร้อมหวังว่า มันจะเป็นจุดเริ่มต้นในการสื่อสารกับแฟน ๆ และผู้ฟังของผมครับ ผมได้เปิดช่อง YouTube และแบ่งปันเพลงของผมไว้ที่นั่นเช่นกัน และนับจากนี้ ถ้าผมสามารถสื่อสารกับแฟน ๆ ได้ นั่นก็จะกลายเป็นความสำเร็จครับ ผมจะแสดงในรายการเพลงต่าง ๆ และมีแผนที่จะปล่อยคอนเทนต์มากมายด้วยครับ ช่วยรอติดตามกันด้วยนะครับ
ขอขอบคุณบทสัมภาษณ์จาก