CRAVITY (กราวิตี) พร้อมทะลายกำแพงและก้าวไปอีกขั้นด้วยซิงเกิลอัลบั้มแรก FIND THE ORBIT ซึ่งถือเป็นจุดเปลี่ยนครั้งสำคัญสำหรับการเดินทางของวง ผลงานชิ้นนี้บ่งบอกถึงพัฒนาการของ CRAVITY ที่แสดงให้เห็นถึงการทำงานเป็นทีมที่ยอดเยี่ยม รวมถึงฐานแฟนคลับอันเหนียวแน่นที่ค่อยๆ เติบโตขึ้นผ่านกิจกรรมทั้งในบ้านเกิดและระดับนานาชาติ FIND THE ORBIT สะท้อนความมุ่งมั่นอันแรงกล้าในการสร้างความแตกต่างและมุ่งนำเสนอตัวตนอันเป็นเอกลักษณ์ในโลกของเคป็อป
เส้นทางใหม่ : FIND THE ORBIT
วงโคจรถูกกำหนดให้เป็นเส้นทางที่เกิดขึ้นเมื่อวัตถุถูกดึงดูดด้วยแรงบางอย่าง อาทิ แรงโน้มถ่วงที่ทำให้โคจรรอบวัตถุอื่นในลักษณะเดียวกัน CRAVITY ดวงดาวทั้ง 9 ที่มีความสมดุลอันยอดเยี่ยมได้สร้างเส้นทางเฉพาะตัวผ่านการทำงานร่วมกันอย่างสร้างสรรค์และแรงผลักดันที่หล่อหลอมให้เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา ระหว่างการเดินทางและล่องลอยออกไป พวกเขาก็ค่อยๆปรับจูนเพื่อรักษาสายสัมพันธ์และจุดมุ่งหมายของพวกเขาเอาไว้ CRAVITY ได้สร้างวงโคจรอันเป็นเอกลักษณ์ผ่านแรงกดดัน , ความขัดแย้ง และพลังงานของการเดินทางครั้งนี้ขึ้นมา
“Remember who we are - จดจำว่าเราเป็นใคร”
FIND THE ORBIT ของ CRAVITY ส่งสัญญาณถึงเรื่องราวบทใหม่แห่งวัยเยาว์และความมุ่งมั่นของพวกเขา ผลงานที่ปล่อยออกมาสะท้อนถึงการเดินทางที่ทำให้เติบโตและพัฒนาขึ้น ขณะที่ผลงานก่อนหน้านี้จะถ่ายทอดถึงการค้นหาตัวตนที่แตกต่าง แต่ FIND THE ORBIT ได้ผสานแก่นแท้ของวัยรุ่นที่พวกเขาได้แสดงให้เห็นมาตลอด เข้ากับความทะเยอทะยานที่มุ่งไปข้างหน้าเพื่อก้าวสู่สิ่งใหม่ ซิงเกิลอัลบั้มนี้ทำหน้าที่ดั่งฉากเปิดที่พร้อมส่งสารอันทรงพลังและสอดประสานกัน เพื่อเน้นย้ำถึงการทำงานเป็นทีม , ตัวตนอันโดดเด่นของ CRAVITY ไปจนถึงการแสดงและแนวเพลงที่ชัดเจน ซึ่งพวกเขาเตรียมเผยโฉมเพื่อเข้าสู่ยุคใหม่
การเดินทางครั้งนี้ CRAVITY นำเสนอเรื่องราวการรวมตัวของวัยรุ่นที่มีภูมิหลังอันหลากหลาย ได้เรียนรู้จากการใช้ชีวิตในแต่ละวันและร่วมกันก้าวไปข้างหน้าเพื่อมุ่งสู่อนาคต แฟนๆ ที่ติดตามเรื่องราวของ CRAVITY จะเข้าใจได้อย่างแจ่มชัดถึงสารที่สอดแทรกมาในอัลบั้ม นับตั้งแต่เดบิวต์สู่การแสดงคอนเสิร์ตเพื่อแฟนๆ , เวิลด์ทัวร์ ไปจนถึงการร่วมรายการต่างๆ ที่ทำให้พวกเขาค่อยๆ เติบโต วันนี้ CRAVITY ยังคงเดินหน้า ก้าวข้ามขีดจำกัด และกรุยทางในแบบฉบับของตัวเอง
ถ้าไม่ทำตอนนี้ก็คงไม่มีโอกาสแล้ว : ผลงานอันน่าจับตา “Now or Never”
เพลง “Now or Never” ถ่ายทอดพลังงานและสไตล์อันเจิดจ้าของ CRAVITY พร้อมกับสื่อสารอันแรงกล้าถึงการคว้าโอกาสไว้อย่างไม่ลังเล ริฟฟ์กีตาร์ , จังหวะกลองเปี่ยมพลัง และท่วงทำนองของเสียงร้องอันเข้มข้น ผสานกันจนกลายเป็นผลงานชิ้นเอกที่เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นของ CRAVITY ที่พร้อมเผชิญโลก มิวสิกวิดีโอที่เต็มไปด้วยฉากน่าตื่นเต้นชวนให้ติดตาม นำเสนอสมาชิกแต่ละคนที่โคจรบนเส้นทางอันเป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง พร้อมสร้างสรรค์ประสบการณ์อันน่าทึ่งที่เผยให้เห็นด้านใหม่ๆของ CRAVITY
ก้าวสำคัญบนเส้นทางของพวกเขา
สำหรับ FIND THE ORBIT นั้น วง CRAVITY สะท้อนความเป็นศิลปินที่เดินทางมาถึงปีที่ 4 และพร้อมจะก้าวต่อไปอย่างกล้าหาญเพื่อการเติบโตในอนาคต ผลงานที่ปล่อยมานี้ไม่เพียงตอกย้ำถึงสไตล์สุดเนี้ยบและการทำงานเป็นทีมได้อย่างราบรื่น แต่ยังเสริมให้พวกเขามีบทบาทในวงการเคป็อปในขณะที่พวกเขายังคงจะสร้างความแปลกใหม่อย่างต่อเนื่อง
FIND THE ORBIT ของ CRAVITY ถือเป็นก้าวสำคัญ และเป็นเครื่องพิสูจน์ถึงความเข้มแข็ง รวมถึงเป็นผู้กำหนดทิศทางในอนาคตอีกด้วย
คำบรรยายแต่ละเพลง
เพลงที่โฟกัสนี้ เน้นย้ำถึงความมุ่งมั่นในการเผชิญโลกอย่างไม่หวาดหวั่นของสมาชิก ทั้งยังสื่อถึงความแน่วแน่ที่จะคว้าโอกาสโดยไม่ลังเล อ้าแขนรับกับสิ่งที่เข้ามาในปัจจุบัน พร้อมโอกาสที่จะพุ่งสู่เป้าหมายที่วางไว้ ด้วยเสียงร้องเปี่ยมพลัง แสดงให้เห็นถึงภาพลักษณ์ที่มีชีวิตชีวาและสไตล์อันโดดเด่นของ CRAVITY พร้อมกับสะท้อนถึงพัฒนาการทางดนตรีของพวกเขาด้วย
เพลงดิสโกป็อปชวนฝันเพลงนี้พาไปสำรวจอารมณ์อันลึกซึ้งของความรักและความปรารถนาที่จะแปรเปลี่ยนให้เป็นความลับระหว่างคนสองคน จังหวะเบสลึกผสานท่วงทำนองเสียงสูงเบาๆ คลอด้วยเสียงคอรัสและเสียงประสานอันไพเราะยิ่งเพิ่มความลุ่มลึก เสียงซินธ์แตกพร่าและองค์ประกอบทางดนตรีที่ได้แรงบันดาลใจจากยุค 80 ช่วยเพิ่มพลัง ชวนให้นึกถึงการแข่งรถผ่านเมืองที่สว่างไสวด้วยแสงไฟ
WOOBIN มีส่วนร่วมในการโปรดิวซ์และแต่งเพลง ขณะที่ WOOBIN , SERIM และ ALLEN มีส่วนร่วมในการแต่งเนื้อเพลง
เพลงที่หนึ่งในสมาชิก อย่าง WOOBIN มีส่วนร่วมในการโปรดิวซ์ ได้แรงบันดาลใจจากการเดินทางของวงในรายการ Road to Kingdom: ACE OF ACE เนื้อเพลงบรรยายประสบการณ์ของการโบยบินสู่ท้องฟ้าร่วมกับแฟนเพลง หรือเหล่า LUVITY ได้อย่างแจ่มชัด หลังต้องทนทุกข์กับความมืดมิดมาอย่างยาวนาน เพลงนี้ผสานริฟฟ์กีตาร์ชวนฝันเข้ากับจังหวะดนตรีสไตล์ดรัมแอนด์เบสที่สะท้อนอารมณ์อันเปี่ยมล้นของสมาชิกได้อย่างทรงพลังและเร้าใจ
เกี่ยวกับ CRAVITY
นับตั้งแต่เดบิวต์ CRAVITY ก็สร้างปรากฎการณ์อย่างไม่หยุดยั้ง ทั้งการคว้ารางวัล Rookie of the Year จากงานแจกรางวัลทางดนตรีหลายเวทีในเกาหลี จนได้รับการขนานนามว่า “Super Rookie” น้องใหม่มาแรง วงประสบความสำเร็จอย่างน่าทึ่งทันทีที่ส่งอัลบั้มชุดแรกทะยานขึ้นอันดับ 1 ชาร์ต iTunes Top K-Pop Albums ของสหรัฐอเมริกา สร้างสถิติเป็นวงเคป็อปน้องใหม่เบอร์แรกของปี 2020 ที่ได้รับเกียรตินี้ หลังจากนั้นไม่นาน พวกเขาก็สร้างความฮือฮาในโลกโซเชียลจนเปิดตัวในอันดับ 12 ชาร์ต Billboard's Social 50 กลายเป็นศิลปินกลุ่มจากเกาหลีใต้ที่ติดอันดับได้เร็วที่สุดเป็นวงที่ 5 โดยหลายปีที่ผ่านมา ความสำเร็จของพวกเขายังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง จนสื่อ Variety จัดให้พวกเขา เป็นวงน้องใหม่ที่ต้องรู้จัก ในปี 2022 รวมถึง Forbes ก็ยกให้พวกเขาเป็นศิลปินที่น่าจับตามองอีกด้วย
ชื่อวง CRAVITY เป็นการรวมกันของคำว่า “Creativity” (ความคิดสร้างสรรค์) กับ “Gravity” (แรงดึงดูด) เพื่อสะท้อนถึงภารกิจในการดึงดูดความสนใจของผู้ฟังด้วยจักรวาลอันเป็นเอกลักษณ์ของพวกเขา ในฐานะบอยแบนด์วงแรกในรอบ 5 ปีของ Starship Entertainment ต่อจาก Monsta X วง CRAVITY ประกอบด้วย 9 หนุ่ม ได้แก่ Serim (เซริม) , Allen (อัลเลน) , Jungmo (จองโม) , Woobin (อูบิน) , Wonjin (วอนจิน) , Minhee (มินฮี) , Hyeongjun (ฮยองจุน) , Taeyoung (แทยอง) และ Seongmin (ซองมิน) ชื่อวงยังเป็นคำย่อจาก “Center of Gravity” (ศูนย์กลางของแรงโน้มถ่วง) ซึ่งบ่งบอกถึงความสามารถในการดึงดูดผู้ฟังด้วยความคิดสสร้างสรรค์ , เสน่ห์ และพรสวรรค์ที่ไม่อาจปฏิเสธได้ของพวกเขาอีกด้วย