SM ENTERTAINMENT ปล่อยอัลบั้มฉลองครบรอบ 30 ปีชื่อว่า ‘2025 SMTOWN : THE CULTURE, THE FUTURE’ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2025 ที่ผ่านมา ซึ่งตรงกับวันครบรอบการก่อตั้งของค่าย อีกทั้งยังเป็นอัลบั้มรวมศิลปินอัลบั้มใหม่ในรอบ 2 ปี 2 เดือน หลังจากอัลบั้มฤดูหนาว ‘2022 Winter SMTOWN : SMCU PALACE’ เมื่อเดือนธันวาคมปี 2022 ซึ่งแฟนเพลงทุกท่านสามารถรับฟังอัลบั้มใหม่ได้ทางแพลตฟอร์มสตรีมมิงเพลงออนไลน์ต่าง ๆ ทั่วโลก อาทิ Melon, FLO, Genie, iTunes, Apple Music, Spotify, QQ Music, KuGou Music, Kuwo Music ฯลฯ
สำหรับอัลบั้ม ‘2025 SMTOWN : THE CULTURE, THE FUTURE’ ชุดนี้ ประกอบด้วยทั้งหมด 17 เพลง โดยมีทั้งเพลงไตเติลชื่อว่า ‘Thank You’ ซึ่งเป็นเพลงรวมศิลปินเพลงใหม่ของ SM และเพลงรีเมกซึ่งศิลปินรุ่นพี่และรุ่นน้องได้นำเพลงฮิตในตำนานของ SM ที่สร้างประวัติศาสตร์ในวงการ K-POP มาตีความใหม่ให้เข้ากับเอกลักษณ์และสไตล์ดนตรีของแต่ละวง ไม่เพียงเท่านี้ ค่ายเพลงแนวแดนซ์อย่าง ScreaM Records และค่ายเพลง Classic & Jazz อย่าง SM Classics ที่อยู่ภายใต้ SM ยังมีส่วนร่วมในอัลบั้มนี้ด้วยการนำเพลงของศิลปิน SM มาเรียบเรียงใหม่ นับเป็นผลงานอัลบั้มอันสมบูรณ์แบบที่ผู้ฟังสามารถเพลิดเพลินไปกับมรดกทางดนตรีที่ SM สั่งสมมาในรูปแบบที่แตกต่างออกไป พร้อมสัมผัสถึงสเปกตรัมทางดนตรีอันหลากหลายของ SM อย่างเต็มที่
นอกจากนี้ เพลงในอัลบั้มบางส่วนได้ถูกนำมาแสดงเป็นครั้งแรกบนเวทีคอนเสิร์ต ‘SMTOWN LIVE 2025 [THE CULTURE, THE FUTURE] in SEOUL’ ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันที่ 11-12 มกราคม 2025 ณ GOCHEOK SKY DOME กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้
รายชื่อเพลงทั้งหมดของอัลบั้ม ‘2025 SMTOWN : THE CULTURE, THE FUTURE’
1. เพลงไตเติล ‘Thank You’
ร้องโดย : ศิลปิน SMTOWN ได้แก่ KANGTA (คังตะ), BoA (โบอา), U-KNOW (ยูโนว์), MAX CHANGMIN (แม็กซ์ ชางมิน), LEETEUK (อีทึก), RYEOWOOK (เรียวอุค), TAEYEON (แทยอน), HYOYEON (ฮโยยอน), KEY (คีย์), MINHO (มินโฮ), SUHO (ซูโฮ), CHANYEOL (ชานยอล), SEULGI (ซึลกิ), JOY (จอย), DOYOUNG (โดยอง), TEN (เตนล์), MARK (มาร์ค), JENO (เจโน่), HAECHAN (แฮชาน), YANGYANG (หยางหยาง), KARINA (คาริน่า), WINTER (วินเทอร์), WONBIN (วอนบิน), SOHEE (โซฮี), SION (ชิอน), YUSHI (ยูชิ)
‘Thank You’ เพลงป็อปมาตรฐานโมเดิร์นและคลาสสิกที่มีเสียงประสานสุดนุ่มนวล จุดสำคัญอยู่ตรงเสียงสังเคราะห์ที่น่าค้นหาและการเล่นกีตาร์แบบสดใส มอบความอบอุ่นผ่านความรู้สึกขอบคุณต่อช่วงเวลาอันล้ำค่าและน่าจดจำที่สั่งสมมาตลอด 30 ปี ความศรัทธาราวกับปาฏิหาริย์ที่มีให้แก่กัน และเรื่องราวของความรักที่ไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเพลงนี้ร้องโดยศิลปิน SM ทั้งหมด 14 คน ในฐานะตัวแทนจากแต่ละวง ไม่ว่าจะเป็น KANGTA, BoA, TVXQ!, SUPER JUNIOR, Girls’ Generation, SHINee, EXO, Red Velvet, NCT 127, NCT DREAM, WayV, aespa, RIIZE และ NCT WISH ร่วมด้วยผู้สร้างเพลงฮิตของ SM มากมายมาเป็นเวลานานอย่าง KENZIE (เคนซี) ในฐานะนักแต่งเพลงตัวแทนของ SM
2. ‘Miracle’
ร้องโดย : NCT WISH
‘Miracle’ เป็นเพลงฮิตของวง SUPER JUNIOR ที่ปล่อยเมื่อปี 2005 ซึ่ง NCT WISH ได้นำมารีเมกตามสไตล์ของพวกเขา โดยนักแต่งเพลงฮิต KENZIE ได้เรียบเรียงเพลงอย่างทันสมัยในแนวแจ็คสวิงใหม่ พร้อมเพิ่มอรรถรสในการฟัง ด้วยเสียงที่สดชื่น พลังแห่งวัยเยาว์และเสียงร้องใส ๆ ของ NCT WISH
3. 'Hug (포옹)'
ร้องโดย : RIIZE (ไรซ์)
‘Hug’ เวอร์ชันรีเมกของ RIIZE เป็นเพลงเดบิวต์และเพลงฮิตของวง TVXQ! ที่ปล่อยเมื่อปี 2004 ซึ่งได้รับการเรียบเรียงใหม่โดย Park Moonchi (พัค มุนชิ) ถ่ายทอดอารมณ์แบบ Newtro (นิวโทร) ด้วยการผสมผสานความรู้สึกของ Y2K และเพิ่มเสียงที่ทันสมัยเข้าไปในเพลงต้นฉบับ อีกทั้งยังสะกดผู้ฟังพร้อมชวนนึกถึงอดีตด้วยการร้องประสานเสียงแบบอะแคปเปลลาตั้งแต่เริ่มอินโทร และเสียงร้องที่สดใสของ RIIZE
4. ‘첫 사랑니 (Rum Pum Pum Pum)’
ร้องโดย : aespa
‘첫 사랑니 (Rum Pum Pum Pum)’ เป็นเพลงฮิตของวง f(x) ที่ปล่อยเมื่อปี 2013 เนื้อเพลงเปรียบเทียบฟันคุดกับความรู้สึกที่เกิดขึ้นเมื่อพบรักแท้เป็นครั้งแรก ซึ่งในเวอร์ชันที่รีเมกโดย aespa ได้มีการเพิ่มการเรียบเรียงที่เน้นเสียงเบสอันหนักหน่วงและเสียงวงโยธวาทิตสุดอลังการ เผยให้เห็นเสน่ห์อันเกินต้านและความมั่นใจของพวกเธอในแบบที่แตกต่างจากต้นฉบับ
5. ‘Run Devil Run’
ร้องโดย : Red Velvet
‘Run Devil Run’ เวอร์ชันรีเมกที่มีการเพิ่มสีสันของ Red Velvet ได้นำเพลงชื่อเดียวกันของ Girls’ Generation ที่ปล่อยเมื่อปี 2010 มาเรียบเรียงใหม่ในแนวแจ๊ส R&B ตามสไตล์ ‘Velvet’ ผ่านเสียงเปียโนที่มีไดนามิกร่วมกับเสียงกระดิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ ผสมผสานเข้ากับเสียงประสานอันนุ่มนวลของสมาชิก Red Velvet ซึ่งสามารถถ่ายทอดคำเตือนที่ตรงไปตรงมาและเด็ดขาดถึงคนนิสัยไม่ดีออกมาได้อย่างน่าดึงดูดมากขึ้น
6. ‘투지 (鬪志, Git It Up!)’
ร้องโดย : EXO
‘투지 (鬪志, Git It Up!)’ ของ EXO เป็นการนำเพลงชื่อเดียวกันของ H.O.T. ที่ปล่อยเมื่อปี 1999 มาเรียบเรียงให้กลายเป็นเพลงแดนซ์แนวอิเล็กทรอนิกส์เมทัลที่มาพร้อมกับเสียงดนตรีแบบใหม่ พร้อมทั้งดึงพลังอันดุดันของเพลงนี้ให้เพิ่มมากขึ้นด้วยการเสริมท่อนแร็ปเข้าไปในเนื้อเพลงที่คร่ำครวญถึงความเจ็บปวดจากสงคราม (การต่อสู้) และวิพากษ์วิจารณ์สิ่งนี้
7. ‘Love Me Right’
ร้องโดย : NCT DREAM
‘Love Me Right’ ที่ได้รับการรีเมกในสไตล์นูพังก์โดย NCT DREAM เป็นเพลงฮิตของ EXO ที่ปล่อยเมื่อปี 2015 โดยทำให้เพลงต้นฉบับมีบรรยากาศที่ท่วมท้นและโรแมนติกอย่างถึงที่สุด ด้วยเสียงสังเคราะห์อันเข้มข้นและเสียงร้องที่คุ้นเคยของ NCT DREAM ผสมผสานเข้าไปในจังหวะฟังกี้ อีกทั้งท่อนแร็ปใหม่ที่สมาชิก MARK มีส่วนร่วมในการแต่งก็ช่วยเพิ่มเสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์ของ NCT DREAM มากขึ้น
8. ‘줄리엣 (Juliette)’
ร้องโดย : WayV
‘줄리엣 (Juliette)’ เป็นเพลงฮิตของ SHINee ที่ปล่อยเมื่อปี 2009 ซึ่ง WayV ได้นำมาตีความใหม่พร้อมเสน่ห์ที่สดชื่น โดยเพิ่มเสียงกีตาร์ที่สละสลวยและลูปเบส เสียงสังเคราะห์ที่ชวนฝัน และเสียงของเครื่องเป่าทองเหลืองที่สนุกสนาน ถ่ายทอดออกมาตามสไตล์อันเป็นเอกลักษณ์ของ WayV เกี่ยวกับคำสารภาพรักสุดโรแมนติกและแสนเศร้า ที่สามารถเสียสละให้ได้แม้แต่จิตวิญญาณ
9. ‘흐린 기억 속의 그대 (You In Vague Memory)’
ร้องโดย : NCT 127
‘흐린 기억 속의 그대 (You In Vague Memory)’ ของ NCT 127 ได้นำเพลงฮิตจากศิลปินหมายเลขหนึ่งของ SM อย่าง HYUN JINYOUNG (ฮยอน จินยอง) มาเรียบเรียงใหม่ในแนว Glitch Hop ที่มีกลิ่นอายของเสียงดนตรีในยุคปัจจุบัน โดยมีการผสมผสานเสียงคีย์บอร์ดที่ให้อารมณ์แจ๊สและการประสานเสียงร้อง เข้ากับทำนองอันเป็นเอกลักษณ์ของเพลงต้นฉบับ จังหวะแจ็คสวิงใหม่ และการร้องชานท์ที่สดชื่น ทำให้เพลงนี้ดูทันสมัยและมีสไตล์ไปอีกขั้น
10. ‘열정 (My Everything)’
ร้องโดย : Girls’ Generation
‘열정 (My Everything)’ เป็นเพลงของ The Grace ที่ปล่อยเมื่อปี 2006 โดยนำมาตีความพร้อมเรียบเรียงใหม่ด้วยการเน้นไปที่ไลน์เปียโนอันไพเราะและการบรรเลงเครื่องสายอย่างอลังการ เพิ่มความรู้สึกของเพลงบัลลาดตามสไตล์ Girls’ Generation เข้าไปในเนื้อเพลงที่เขียนขึ้นโดยไร้การปรุงแต่ง พูดถึงความมุ่งมั่นที่เกิดจากความรักอันบริสุทธิ์ อีกทั้งยังมอบความรู้สึกอันลึกซึ้งผ่านการประสานเสียงที่สวยงามของสมาชิก ซึ่งเปรียบเสมือนของขวัญสำหรับแฟน ๆ และผู้ฟังที่อยู่ด้วยกันมานาน
11. ‘I Pray 4 U’
ร้องโดย : SUPER JUNIOR
‘I Pray 4 U’ เป็นเพลงฮิตของ SHINHWA ที่ปล่อยออกมาเมื่อปี 2002 ซึ่ง SUPER JUNIOR ได้นำมารีเมกเป็นเพลงแนวฮิปฮอปอัลเทอร์เนทีฟรวมกับเสียงอิเล็กทรอนิกส์ พร้อมทั้งเพิ่มเสน่ห์ให้กับเพลงนี้ด้วยการร้องเพลงที่เข้ากันอย่างลงตัวและความสดชื่นของ SUPER JUNIOR ผสมผสานกับความรู้สึกของเพลงต้นฉบับ สื่อถึงความรู้สึกของการจดจำและตั้งตารอคอยคนสำคัญ
12. ‘Psycho’
ร้องโดย : TVXQ!
‘Psycho’ เวอร์ชันรีเมกโดย TVXQ! ได้นำเพลงฮิตของ Red Velvet ที่ปล่อยเมื่อปี 2019 มาเรียบเรียงใหม่ซึ่งจุดเด่นอยู่ตรงจังหวะที่อลังการและเสียงสังเคราะห์แบบกลิตเตอร์ พร้อมตีความเพิ่มเสียงร้องที่เซ็กซี่และเย้ายวนตามสไตล์ TVXQ!ถ่ายทอดเนื้อเพลงที่เล่าถึงความสัมพันธ์ที่คนอื่นอาจมองว่าแปลก แต่ทั้งสองต่างยอมรับถึงการมีเพียงกันและกัน ผ่านเสียงร้องจากมุมมองของผู้ชาย สร้างบรรยากาศที่แปลกใหม่ให้กับเพลง
13. ‘Just A Feeling’
ร้องโดย : KANGTA
‘Just A Feeling’ ของ KANGTA รีเมกมาจากเพลงชื่อเดียวกันของ S.E.S. ที่ปล่อยเมื่อปี 2002 โดยเรียบเรียงออกมาให้มีบรรยากาศเหมือนภาพยนตร์ด้วยการใช้แนวเพลงที่หลากหลาย อาทิ อิเล็กทรอนิกส์, นิวแจ็คสวิง, อาร์แอนด์บี และแอโฟร เพื่อถ่ายทอดความหวั่นไหวและความรู้สึกที่มีต่ออีกฝ่ายในเนื้อเพลงออกมาเป็นฉาก ๆ
14. ‘Game’
ร้องโดย : nævis
‘Game’ เป็นการนำเพลงชื่อเดียวกันของ BoA ที่ปล่อยปี 2010 มาเรียบเรียงใหม่อีกครั้ง นำโดยผู้แต่งต้นฉบับอย่าง Hitchhiker อีกทั้งเสียงที่เพิ่ม Chiptune source อันเร้าใจเข้าไปในความรู้สึกที่มีชีวิตชีวาของเพลงต้นฉบับก็สอดคล้องกับเนื้อเพลงที่พูดถึงเกมแห่งความรักที่น่าเวียนหัวและเย้ายวนใจ ทำให้การพบกับคาแรกเตอร์ nævis ช่วยเพิ่มความสนุกในการรับฟังอีกขั้น
15. ‘View’
นำเสนอโดย : ScreaM Records
‘View’ เป็นการนำเพลงฮิตของ SHINee ที่ปล่อยเมื่อปี 2015 มารีมิกซ์ใหม่ ซึ่งดีเจจาก ScreaM Records ค่ายเพลงอิเล็กทรอนิกส์แดนซ์ภายใต้ SM อย่าง IMLAY, Mar Vista และ 2Spade ได้มีส่วนร่วมในการเรียบเรียง เพื่อนำเสนอเสน่ห์ใหม่ด้วยการเพิ่มเสียงที่ทันสมัยของ House, UK Garage และ Jersey Club เข้าไปในเพลงต้นฉบับแนว Up-tempo Deep House
16. ‘My Name’
นำเสนอโดย : SM Classics
‘My Name’ เป็นเพลงของ BoA ที่ปล่อยเมื่อปี 2004 ซึ่งค่ายเพลงคลาสสิกและแจ๊สภายใต้ SM อย่าง SM Classics ได้นำมาเรียบเรียงใหม่ โดยเปลี่ยนจังหวะที่หนักแน่นและจังหวะกีตาร์อะคูสติกที่ทรงพลังให้กลายเป็นเสียงที่หลากหลายของวงออเคสตรา พร้อมใช้เทคนิคดนตรีคลาสสิกทั้งแบบสมัยใหม่และร่วมสมัย เพื่อสร้างเสียงสมัยใหม่ที่เชื่อมโยงอดีตและปัจจุบัน
17. ‘하루의 끝 (End Of A Day)’
ร้องโดย : BoA (โบอา)
‘하루의 끝 (End Of A Day)’ ของ BoA เป็นการนำเพลงชื่อเดียวกันของ JONGHYUN วง SHINee ที่ปล่อยเมื่อปี 2015 มาเรียบเรียงใหม่ โดยทำให้เสียงเปียโนและทำนองของเครื่องสายที่กระตุ้นอารมณ์นั้นเด่นชัดยิ่งขึ้น พร้อมถ่ายทอดความรู้สึกของการปลอบโยนที่สงบและอ่อนโยนในช่วงสุดท้ายของวันที่ทุกคนต้องเผชิญได้เป็นอย่างดี ผ่านท่วงทำนองอันอบอุ่นที่ผสมผสานเข้ากับเสียงร้องที่ละเอียดอ่อนของ BoA