aespa เสิร์ฟรสชาติเหล็กที่แท้จริง ในซิงเกิลใหม่ล่าสุด ‘Dirty Work’ ที่ปล่อยออกมาให้รับฟังกันแล้ววันนี้ โดยซิงเกิลนี้ ประกอบด้วยทั้งหมด 4 เพลง ได้แก่ ดับเบิลไตเติลอย่าง ‘Dirty Work’ กับ ‘Dirty Work’ เวอร์ชันที่มี Flo Milli ร่วมร้อง, ‘Dirty Work’ เวอร์ชันภาษาอังกฤษ และ ‘Dirty Work’ เวอร์ชัน Instrumental ที่สำคัญ ยังสร้างสถิติมียอดสั่งซื้อล่วงหน้าทะลุ 1.01 ล้านชุด (ณ วันที่ 26 มิถุนายน 2025) และคาดว่า aespa จะขึ้นแท่น Million Seller (หรือศิลปินที่มียอดจำหน่ายอัลบั้มทะลุล้านชุด) ติดต่อกันเป็นครั้งที่ 6 ต่อจากมินิอัลบั้มชุดที่ 2 ‘Girls’, มินิอัลบั้มชุดที่ 3 ‘MY WORLD’, มินิอัลบั้มชุดที่ 4 ‘Drama’, อัลบั้มเต็มชุดแรก ‘Armageddon’ และมินิอัลบั้มชุดที่ 5 ‘Whiplash’
เพลงไตเติล ‘Dirty Work’ เพลงแดนซ์แนวฮิปฮอปที่มีจุดเด่นอยู่ตรงเสียงซินธ์เบสสุดติดหูและทำนองของเสียงร้องแบบเท่ ๆ ซึ่งจะแตกต่างจากเสน่ห์ที่แข็งแกร่งของ aespa ในช่วงที่ผ่านมา ด้านการแสดงของเพลงนี้มาพร้อมท่าเต้นที่เน้นให้เห็นถึงความแตกต่างกัน ตั้งแต่ท่าที่มีความฮิปและทรงพลัง ไปจนถึงความรู้สึกเซ็กซี่แบบผ่อนคลาย โดยเฉพาะช่วงแดนซ์เบรกที่โชว์เอกลักษณ์เฉพาะตัวของแต่ละสมาชิก และช่วงคอรัสสุดท้ายที่ดำเนินไปอย่างทรงพลังตามจังหวะดนตรีที่สูงขึ้น
นับตั้งแต่ aespa เดบิวต์ในปี 2020 พวกเธอได้สร้างความอิมแพ็คอย่างรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นเพลง ‘Black Mamba’ ตามด้วยเพลงฮิปฮอปแดนซ์ ‘Next Level’ ที่มีการเปลี่ยนแปลงหลากหลายแบบอย่างโดดเด่น และเพลงแนวแทร็ป ‘Savage’ ที่เน้นความรู้สึกโจมตีอย่างทรงพลัง ซึ่งประสบความสำเร็จได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่อง พร้อมสร้างเอกลักษณ์ทางดนตรีเฉพาะตัวที่เรียกว่า ‘รสชาติเหล็ก’ สำหรับเพลงใหม่ ‘Dirty Work’ ทุกคนจะได้สัมผัสกับเสน่ห์สุดชิลล์และเท่ของ aespa ซึ่งวิดีโอการแสดงที่ปล่อยออกมาให้ฟังเพลงบางส่วนก่อนหน้านี้ ถูกผลิตขึ้นโดยเป็นส่วนหนึ่งของแคมเปญ ‘Shot On iPhone’ ผ่านความร่วมมือกับ Apple และกระบวนการทั้งหมดก็ถ่ายทำด้วย iPhone 16 Pro โดยใช้ภาพสโลว์โมชัน 4K120 สำหรับท่อนหลักของเพลงนี้ ทำให้วิดีโอยิ่งดูน่าตื่นเต้นมากขึ้น และแฟน ๆ ต่างพูดถึงกันอย่างร้อนแรง เช่น ‘รสชาติเตาหลอมเหล็ก’, ‘เสียงเหล็กหลอมละลาย’, ‘aespa ช่างตีเหล็ก’
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เหตุผลที่ทำให้ ‘รสชาติเหล็ก’ ในแบบฉบับของ aespa ยิ่งพิเศษมากขึ้นไปอีกก็คือ การรักษาเนื้อสัมผัสของเสียงที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวเอาไว้ ที่เพียงแค่ฟังท่อนแรกก็รู้ได้ทันทีว่าเป็น ‘เพลงของ aespa’ ขณะเดียวกัน ก็พยายามเปลี่ยนแปลงดนตรีต่าง ๆ เพื่อเพิ่มความสนุกในการรับฟังมากขึ้น ซึ่งในปีที่ผ่านมาพวกเธอประสบความสำเร็จกับการแสดงให้เห็นถึง ‘aespa ที่สมกับเป็น aespa ที่สุด แต่ไม่เคยเห็นมาก่อน’ ด้วยเพลงไตเติล ‘Supernova’ และ ‘Armageddon’ ของอัลบั้มเต็มชุดแรก และมินิอัลบั้มชุดที่ 5 ‘Whiplash’ ที่สร้างกระแสความนิยมไปทั่วโลก
ยิ่งไปกว่านั้น มิวสิกวิดีโอเพลงใหม่ ‘Dirty Work’ ยังถูกถ่ายทำขึ้นในโรงงานเหล็ก Hyundai Steel ที่เมืองทังจิน เผยภาพอันสวยงามที่สามารถสัมผัสได้ถึง ‘รสชาติเหล็ก’ ที่แท้จริง ท่ามกลางฉากหลังที่เป็นโรงงานอุตสาหกรรมแบบสมจริง โดย aespa ได้พลิกโฉมเป็นกลุ่มผู้ต่อต้านที่ไม่ยอมท้อถอย และไม่ลังเลที่จะลงมือทำ ‘งานสกปรก (dirty work)’ ทุกรูปแบบเพื่อเพื่อนร่วมอุดมการณ์ อีกทั้งยังเน้นย้ำถึงความรู้สึกยิ่งใหญ่และสเกล พร้อมนำเสนอความเพลิดเพลินในการรับชมอย่างเหนือชั้น ด้วยลานเก็บของสุดกว้างใหญ่, เครื่องจักรกลหนัก, นักแสดงตัวประกอบ 225 คน ฯลฯ เพื่อแสดงให้เห็นถึงพลังแห่งความสามัคคีของพวกเธอ
ทั้งนี้ aespa สร้างสถิติเป็นเกิร์ลกรุ๊ปเค-ป็อปวงแรก ที่ได้ขึ้นแสดงในฐานะเฮดไลน์เนอร์ของเทศกาลดนตรีระดับโลก ‘Mawazine Festival’ ที่กรุงราบัต ประเทศโมร็อกโก เมื่อวันที่ 24 มิถุนายนที่ผ่านมา (ตามเวลาท้องถิ่น) นอกจากนี้ พวกเธอยังมีแผนจัดเวิลด์ทัวร์ครั้งที่ 3 ชื่อว่า ‘2025 aespa LIVE TOUR - SYNK : aeXIS LINE –’ เริ่มต้นที่กรุงโซล ประเทศเกาหลีใต้ ในวันที่ 29-31 สิงหาคมนี้ ณ KSPO DOME รวมถึงประกาศตารางทัวร์อารีน่าในประเทศญี่ปุ่น ทั้งหมด 10 รอบใน 4 เมือง เริ่มต้นที่ฟุกุโอกะ วันที่ 4 ตุลาคมนี้ ตามด้วยโตเกียว ไอจิ และโอซาก้า สำหรับคอนเสิร์ตที่ประเทศไทย แฟน ๆ สามารถรอติดตามข่าวสารได้ทางบัญชีโซเชียล มีเดียต่าง ๆ ของ SM True : เฟซบุ๊ก facebook.com/smtruethailand, อินสตาแกรม instagram.com/smtruethailand และเอ็กซ์ x.com/SMTrueThailand