ต่อจากอัลบั้มชุดก่อนหน้านี้ FACE ME, FACE YOUและ FACE US ถือเป็นกระบอกเสียงของคนรุ่นใหม่ที่รู้สึกโดดเดี่ยวและแตกต่าง มินิอัลบั้มซีรีย์ชุดนี้ จะคอยปลอบโยนและให้กำลังใจพวกเขาเสมอ เพื่อให้รับรู้ว่ายังมีคนอยู่เคียงข้าง นอกจากนี้ วง VERIVERY ยังได้พูดถึงเรื่องราวที่ลึกซึ้งและทรงพลังผ่านอัลบั้มชุดนี้เกี่ยวกับ “โลกใบใหม่ของพวกเรา” ที่ที่พวกเราสามารถอยู่ร่วมกันได้
ในปี 2020 นี้ VERIVERY กลับมาพร้อมผลงานอัลบั้มซีรีย์ FACE it โดยปล่อย FACE ME เป็นมินิอัลบั้มชุดที่ 3 ออกมา ตามด้วย FACE YOU มินิอัลบั้มชุดที่ 4 และ FACE US มินิอัลบั้มชุดที่ 5 ที่เพิ่งปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 13 ตุลาคม 2563
DONGHEON: อัลบั้ม FACE US นี้ คือเรื่องราวที่ 3 ในซีรีส์ FACE it ของ VERIVERY ปี 2020 โดยอัลบั้มทั้งหมดใน FACE it จะสื่อถึงเรื่องราวการต่อสู้กับความรู้สึกท้อและโดดเดี่ยว ที่วัยรุ่นหลายคนๆ และพวกเราได้เผชิญในโลกแห่งความเป็นจริงนี้ รวมถึงความปราถนาที่อยากจะสร้างอนาคตใหม่ไปด้วยกันครับ
MINCHAN: FACE ME คืออัลบั้มแรกในซีรีส์ FACE it เป็นอัลบั้มที่สื่อถึงการค้นหา และการเผชิญหน้ากับตัวเองอย่างกล้าหาญ อัลบั้มที่ 2 FACE YOU ด้วยความกล้าหาญนั้น ได้แสดงให้เห็นถึงเรื่องราวความสัมพันธ์และความเข้าใจกันระหว่าง ME และ YOU และในอัลบั้มที่ 3 FACE US ก็จะเป็นเรื่องราวต่อจากการที่สองอัลบั้มก่อนหน้า คือ ME และ YOU ได้พบและเชื่อมต่อกัน เป็นโลกใบใหม่ที่พวกเราร่วมสร้างขึ้นมาด้วยกัน
YEONHO: เพลงไตเติ้ล G.B.T.B ย่อมาจากคำว่า Go Beyond The Barrier เป็นเพลงที่ทำให้รู้สึกถึงความกล้าหาญและเต็มไปด้วยพลัง หลังจากที่ทุกคนได้ฟัง FACE ME, FACE YOU และ FACE US ซึ่งก็คือพวกเรา ที่เกิดจากการเชื่อมต่อกันระหว่าง ME (ฉัน) และ YOU (คุณ) ที่ไม่ว่าพวกเราจะพบเจอกับอุปสรรคอะไร พวกเราก็จะสามารถเอาชนะและผ่านมันไปได้ครับ
MINCHAN: ทุกคนรู้จักเพลง “G.B.T.B” กันไปแล้ว ผมขอแนะนำเพลงที่ 2 ในอัลบั้มที่มีชื่อว่า MY FACE ครับ เป็นเพลงที่ทุกคนฟังแล้วอาจจะรู้สึกหรือคิดว่ามันแปลก แต่ว่ามันฟังสบายๆ มากและก็จะเป็นเพลงที่ติดหูไปเลยครับ
KANGMIN: HOLD ME TIGHT เพลงที่ 3 เป็นเพลงที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับช่วงเวลาที่เรา กำลังอยู่ในความมืดมน และหลังจากได้พบเธอ ความรู้สึกก็เปลี่ยนไป เป็นความรู้สึกที่ดีขึ้น เหมือนได้เดินอยู่บนท้องฟ้าครับ
HOYOUNG: สำหรับเพลงที่ 4 GET OUTTA MY WAY เป็นเพลงที่มีเสียงเบสหนักหน่วงและทรงพลังมากๆ ความหมายของเพลงนี้ก็คือ ในอนาคตไม่ว่าเราจะเจอเรื่องอะไร เราก็จะไม่หนี เราจะฝ่าฟันและเอาชนะมันไปให้ได้ครับ